AI เขย่าโลกสื่อ: เมื่อ ‘ความเร็ว’ คือเดิมพัน และ ‘มนุษย์’ คือผู้คุมเกม

ภูมิทัศน์สื่อ (Media Landscape) กำลังถูกเปลี่ยนนิยามใหม่ด้วยความเร็วที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน การมาถึงของ Generative AI ไม่ใช่แค่การ Disrupt แต่มันคือการ “เปลี่ยน” กฎของเกมทั้งหมด โดยเฉพาะหลังจากการเปิดตัว ChatGPT ที่ทะยานขึ้นเป็นเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชมสูงสุดอันดับ 5 ของโลก แซงหน้ายักษ์ใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจมานับสิบปี ทั้งที่เป็นระบบสมัครสมาชิก (Subscription-based) สิ่งนี้คือสัญญาณเตือนว่า ใครก็ตามที่ไม่ปรับตัว กำลังจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างถาวร

บทความนี้สรุปประเด็นสำคัญจากรายการ Media Code โดยคุณก้าวโรจน์ สุตาภักดี ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เพื่อให้คนในวงการสื่อเห็นภาพว่า AI ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่กำหนดผู้แพ้-ผู้ชนะในสนามรบ Content วันนี้

AI: ไม่ใช่แค่ ‘เครื่องทุ่นแรง’ แต่คือ ‘ตัวคูณ’ โอกาสทางธุรกิจ

หัวใจของ AI ในงานสื่อมีเพียง 2 ข้อ คือ ลดเวลา และ เพิ่มโอกาส/รายได้ คุณก้าวโรจน์ สุตาภักดี ได้สาธิตให้เห็นว่า AI สามารถทำงานที่ซับซ้อนให้เสร็จสิ้นในหลักนาที:

● สร้างภาพเสมือนจริง (Image Generation): เทคโนโลยีอย่าง Nano Banana ของ Google สามารถเปลี่ยนภาพคนธรรมดาให้กลายเป็นภาพระดับ “พระเอกเกาหลี” ได้ใน 2 นาที นี่คือเครื่องมือสร้างสรรค์และในขณะเดียวกันก็คือความท้าทายด้านข่าวปลอมที่ต้องรับมือ

● โคลนเสียง (Voice Cloning): จากที่เคยต้องใช้ไฟล์เสียงต้นฉบับหลายชั่วโมง ปัจจุบันต้องการเพียง 60 วินาที เพื่อโคลนเสียงที่แม่นยำ และเมื่อนำไปผสานกับวิดีโอด้วยเครื่องมืออย่าง Gen-2 จะสามารถลดกระบวนการผลิตที่เคยใช้เวลา 4 ชั่วโมง ให้ เหลือเพียง 10 นาที

ความสามารถเหล่านี้คือการปลดล็อกศักยภาพการผลิตคอนเทนต์ในสเกลที่ไม่เคยทำได้มาก่อน

กรณีศึกษา TNN: พลิก Workflow ห้องข่าว สู่ยุค ‘Content Automation’

TNN ได้นำ AI เข้ามาผนวกกับกระบวนการทำงานจริง เพื่อแก้ปัญหาคอขวดในการผลิตคอนเทนต์สั้น (Snack Content) ที่ต้องป้อนหลายแพลตฟอร์ม

● กระบวนการเดิม: การผลิตคลิปสั้น 1 คลิป ต้องใช้ทีมงานครบชุด (พิธีกร, ช่างกล้อง, โปรดิวเซอร์) และสตูดิโอ ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง

● AI Solution: TNN เปลี่ยนวิธีโดยให้พิธีกรเข้ามา “อัดลุค” (ภาพลักษณ์) เพียงครั้งเดียว ซึ่งสามารถสร้างรูปแบบได้ถึง 300 แบบ หลังจากนั้น พิธีกรไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศอีก เพียงส่งสคริปต์และอัดเสียง (Voice Over) จากสมาร์ทโฟน แล้วให้ AI จัดการแมตช์ภาพและเสียงเข้าด้วยกัน

● ผลลัพธ์: ลดเวลาการผลิตต่อคลิป เหลือเพียงหลักนาที โดยยังคงกระบวนการยืนยันตัวตนและขอความยินยอม (Consent) จากเจ้าของเสียงและภาพ เพื่อรักษามาตรฐานทางจริยธรรม

‘Human-in-the-Loop’: ทำไมมนุษย์ยังเป็นหัวใจในสมการ AI

แม้ AI จะสามารถทำงานได้อัตโนมัติเต็มรูปแบบ เช่น กรณีศึกษา “หลวงตาบุญจริง” ที่ใช้บอทค้นหาบทสวด สร้างสคริปต์ และโพสต์ลง TikTok เองทั้งหมด แต่มนุษย์ยังคงเป็นส่วนที่ขาดไม่ได้ใน 2 จุดยุทธศาสตร์สำคัญ:

1. จุดเริ่มต้น (Initiative): มนุษย์คือ ผู้กำหนดกลยุทธ์ ว่าจะใช้ AI เพื่อ “ลดอะไร” หรือ “เพิ่มอะไร” AI เป็นเครื่องมือ แต่มนุษย์คือผู้บัญชาการ

2. จุดตรวจสอบ (Verification): มนุษย์คือ ปราการด่านสุดท้ายในการตรวจสอบความถูกต้องและจริยธรรมของเนื้อหาก่อนเผยแพร่ ความรับผิดชอบสุดท้ายยังคงอยู่ที่มนุษย์

AI อาจมี Global Ethics ในตัว แต่จรรยาบรรณสื่อในบริบทของแต่ละสังคมยังเป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องกำกับดูแล

วิกฤตใหม่ที่น่ากลัวกว่าเทคโนโลยี: ‘AI Gap’ และสงคราม ‘การรับรู้’

ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดไม่ใช่ตัวเทคโนโลยี แต่คือ วิธีคิดของผู้รับสาร สังคมกำลังเผชิญกับ AI Gap ซึ่งเป็นช่องว่างทางความรู้ที่น่ากลัวกว่า Digital Gap ในอดีต ผู้คนจำนวนมากมีแนวโน้มที่จะ เลือกเชื่อ ข้อมูลที่สอดคล้องกับอคติหรือความเชื่อเดิมของตนเอง (Perception) แม้จะรู้ว่าข้อมูลนั้นอาจสร้างจาก AI ก็ตาม

นี่คือสนามรบใหม่ของข่าวปลอม ที่ Deepfake และ Misinformation สามารถเข้าถึงคนทั้งประเทศผ่านสมาร์ทโฟน โดยที่หลายคนยังขาดทักษะการรู้เท่าทัน

ทางรอดของคนสื่อและสังคม: ต้องทำอะไร?

ความเร็วของ AI บังคับให้ทุกคนต้อง “เก็บคอ งอเข่า” เพื่อเตรียมรับแรงปะทะ

สำหรับคนทำสื่อ:

● เรียนรู้และอยู่กับมัน: ต้องลงมือใช้เครื่องมือ AI ให้เป็น และใช้ประสบการณ์ของมนุษย์ในการกำกับดูแล

● ทำให้เป็น Norm: ทักษะ AI กำลังจะกลายเป็นทักษะพื้นฐาน เหมือนการใช้โซเชียลมีเดียในทศวรรษก่อน

● สร้าง Human Touch: ในวันที่คอนเทนต์ถูกผลิตได้ราวกับสายน้ำ สิ่งที่จะมีค่าที่สุดคือ “สัมผัสของความเป็นมนุษย์” ที่ AI ไม่สามารถลอกเลียนได้

สำหรับประชาชนทั่วไป:

● อย่าตื่นตระหนก: AI เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเราแล้วอย่างเงียบๆ

● เปลี่ยนจาก “เช็กก่อนแชร์” เป็น “เช็กก่อนเชื่อ”: นี่คือกฎเหล็กข้อใหม่ เพราะก่อนที่เราจะแชร์อะไรออกไป เราได้ผ่านกระบวนการ “เชื่อ” มาก่อนแล้ว ดังนั้น การตั้งคำถามกับความเชื่อของตัวเองเป็นด่านแรก คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดในยุค AI