อดีตคณบดีคณะแพทย์ศิริราชยืนยันไม่ได้เป็นผู้เขียนบทความ “มะนาวรักษามะเร็ง”
กองบรรณาธิการโคแฟค
❓ เนื้อหาที่ตรวจสอบ: อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลแนะนำวิธีทำน้ำด่างจากมะนาวมีสรรพคุณรักษามะเร็ง
❌ ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง: **เนื้อหาเท็จ แอบอ้างชื่ออดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และเป็นข่าวลวงวนซ้ำที่ถูกส่งต่อตั้งแต่ปี 2557**
📝 เนื้อหาโดยสรุป: ช่วงปลายเดือน ก.ย. จนถึง ต.ค. 2568 ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กจำนวนมากโพสต์ข้อความแนะนำให้ทำน้ำด่างหรือน้ำผสมมะนาวดื่มเนื่องจากน้ำด่างช่วยขจัดเชื้อโรคในร่างกาย และมะนาวมีฤทธิ์ทำลายมะเร็งเนื้อร้ายที่รุนแรงถึง 12 ชนิด โดยอ้างว่าเป็นคำแนะนำของ ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
🔎 โคแฟคตรวจสอบ: จากการตรวจสอบพบว่าข้อความลักษณะเดียวกันนี้ ไม่ว่าจะเป็นมะนาวผสมน้ำเย็น ผสมน้ำร้อน มะนาวผสมโซดาที่อ้างว่าสามารถฆ่าเชื้อหรือรักษามะเร็งได้นั้น เป็นข่าวลวงที่ถูกส่งต่อผ่านแอปพลิเคชันไลน์ โซเชียลมีเดียต่าง ๆ มายาวนานกว่า 10 ปี และรวมทั้งมีการเผยแพร่ทางเว็บไซต์ขององค์กรและสื่อซึ่งเนื้อหาเท็จนี้ยังคงเข้าถึงได้ในปัจจุบัน
วันที่ 20 ต.ค. 2568 โคแฟคได้รับคำยืนยันจาก ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ว่าไม่ได้เป็นผู้เขียนบทความนี้และถูกนำชื่อไปแอบอ้าง
นอกจากแอบอ้างชื่อ ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์แล้ว บทความนี้ยังเป็นการเผยแพร่เนื้อหาเท็จเกี่ยวกับสุขภาพอีกด้วย ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานที่เชื่อถือได้ระบุตรงกันว่ามะนาวมีค่า pH เป็นกรด เมื่อนำมาผสมน้ำ กรดจะเจือจางลง แต่ไม่ได้ทำให้กลายเป็นน้ำด่างตามคำกล่าวอ้าง
รศ.ภก.ดร. บดินทร์ ติวสุวรรณ จากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายในรายการชัวร์ก่อนแชร์ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 67 ว่ามนุษย์มีระบบปรับสมดุลค่าความเป็นกรดหรือด่างในร่างกายให้อยู่ระหว่างค่า pH 7.4±0.5 ไม่ว่าจะรับประทานเครื่องดื่มหรืออาหารที่เป็นกรดหรือด่าง สุดท้ายร่างกายจะจัดการปรับให้อยู่ในค่าที่เหมาะสม
ด้านกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าน้ำผสมมะนาว “ไม่ได้มีคุณสมบัติในการที่จะไปยังยั้งหรือฆ่าเซลล์มะเร็งแต่อย่างใด” แต่มะนาวมีวิตามินซีและสารฟลาโวนอยด์ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระและช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ จึงควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสมและไม่ดื่มน้ำโซดาหรือน้ำมะนาวขณะท้องว่างเพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองเยื่อบุในระบบทางเดินอาหาร
