กระทรวงเกษตรฯ ออสเตรเลียระบุ ยาดมสมุนไพรเป็น “สิ่งของต้องสำแดง” ก่อนเข้าประเทศ
 
กองบรรณาธิการโคแฟค
โคแฟคตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความว่าสนามบินเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารนำยาดมสมุนไพรเข้าประเทศโดยมีภาพประกอบเป็นยาดมกระปุกพลาสติกสีเขียวยี่ห้อหงส์ไทย พบว่าเป็นเนื้อหาจริง โดยกระทรวงเกษตร ประมง และป่าไม้ของออสเตรเลีย ยืนยันกับโคแฟคว่ายาดมสมุนไพรแบบแห้งเป็นสิ่งของต้องสำแดง ณ สนามบินทุกแห่งก่อนเข้าประเทศตามกฎหมายออสเตรเลีย
เนื้อหาที่ตรวจสอบ
ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กโพสต์ข้อความในกลุ่ม “Thai Community in Perth Western Australia” เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2568 ว่าสนามบินเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารนำยาดมเข้าประเทศ พร้อมแนบรูปยาดมสมุนไพรแบบกระปุกของไทยและอ้างว่าก่อนหน้านี้เคยนำเข้าประเทศได้แต่ปัจจุบันถูกเจ้าหน้าที่ยึดทิ้ง และอนุญาตให้นำยาดมแบบน้ำหรือน้ำมันเข้าประเทศได้เท่านั้น โพสต์นี้มียอดแชร์มากกว่า 1,000 ครั้ง และมีผู้แสดงความคิดเห็นมากกว่า 500 ข้อความ โดยบางส่วนอ้างว่าอาจเพราะยาดมสมุนไพรแบบแห้งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เสี่ยงมีเชื้อรา หรืออาจเป็นเพราะว่ามีส่วนประกอบของพืชต่างถิ่น

โคแฟคตรวจสอบ
โคแฟคส่งอีเมลไปสอบถามกระทรวงเกษตร ประมง และป่าไม้ของออสเตรเลีย (Department of Agriculture, Fisheries and Forestry–DAFF) ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ ซึ่งได้ตอบกลับมาเมื่อวันที่ 28 ต.ค. ว่ายาดมสมุนไพรแบบแห้งจากประเทศไทยนั้นจัดอยู่ในผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องหอม ดอกไม้แห้ง และสมุนไพรแห้ง (Potpourri) ซึ่งมีส่วนประกอบของเมล็ดพันธุ์ ฝัก และส่วนอื่น ๆ ของพืชซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงทางชีวภาพสูง ผู้โดยสารที่นำยาดมสมุนไพรแบบแห้งติดตัวมาด้วยจะต้องสำแดงเพื่อให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรของทุกสนามบินในออสเตรเลียตรวจสอบ ไม่จำกัดเพียงแค่ที่สนามบินเพิร์ธเท่านั้น และหากตรวจพบเจ้าหน้าที่อาจกำจัดทิ้งหรือจัดการตามความเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ ไม่ได้ชี้แจงว่าเริ่มใช้นโยบายนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่หรือมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายให้เข้มงวดขึ้นหรือไม่
บทความที่เผยแพร่บนเว็บไซต์สถานกงสุลใหญ่ของไทย ณ นครซิดนีย์ เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2565 ระบุว่าออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีมาตรการการนำสิ่งของเข้าประเทศที่เข้มงวด เนื่องจากสัตว์ พืช และอาหารบางชนิดจากต่างประเทศอาจนำวัชพืชหรือโรคร้ายเข้ามาในออสเตรเลียได้ ซึ่งอาจส่งผลทำลายอุตสาหกรรมการเกษตร การท่องเที่ยวอัน และสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศ
ตรวจสอบรายการสิ่งของที่อนุญาตหรือไม่อนุญาตให้นำเข้าออสเตรเลียได้ ที่นี่ และ ที่นี่
อย. สุ่มตรวจพบการปนเปื้อนในยาดมหงส์ไทย
ช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่โคแฟคได้รับคำชี้แจงจากกระทรวงเกษตรฯ ออสเตรเลียเกี่ยวกับการนำยาดมสมุนไพรเข้าประเทศนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เผยแพร่ประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่องผลการตรวจสอบผลิตภัณฑ์สมุนไพร (ยาดมผสมสมุนไพร ตราหงส์ไทย สูตร 2 เลขทะเบียนที่ G 309/62) เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2568 ระบุว่าพบการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ ยีสต์ และเชื้อราเกินมาตรฐาน พร้อมแนะประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ในรุ่นการผลิตที่ตรวจพบการปนเปื้อน

อย. ระบุว่าพบการปนเปื้อนเกินมาตรฐานในยาดมสมุนไพร สูตร 2 ตราหงส์ไทย เลขทะเบียนที่ G 309/62 พร้อมแนะนำประชาชนให้หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์รุ่นการผลิตที่มีปัญหา แต่ยังคงอนุญาตให้มีการจำหน่ายและใช้ยาดมรุ่นการผลิตอื่นได้ตามปกติ
“เชื้อจุลินทรีย์ รา ยีสต์ ที่ปนเปื้อนเกินปริมาณที่กำหนด อาจส่งผลต่อเสียต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่มีร่างกายอ่อนแอ ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือผู้สูงอายุ หากสูดดมอาจได้รับอันตรายจากสปอร์ของเชื้อราและคลอสทริเดียม เพอร์ฟริงเจน เช่น ติดเชื้อทางเดินหายใจ หายใจลำบาก มีเสียงหวีด อาการไอ ปวดปาก และลำคอ” อย.ระบุในเอกสารข่าวแจกที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ และให้คำแนะนำ 3 ข้อเกี่ยวกับการซื้อและใช้ยาดมสมุนไพรดังนี้
1. เลือกซื้อยาดมที่ได้รับการอนุญาตจาก อย. และห้ามซื้อยาดมที่ไม่มีเลขทะเบียนหรือไม่ระบุแหล่งที่มา
2. หลังเปิดใช้งานควรปิดฝายาดมให้สนิท เก็บในที่แห้ง อุณหภูมิห้อง และหลีกเลี่ยงการใช้นิ้วมือสัมผัสกับส่วนผสมภายในเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์
3. ยาดมชนิดชิ้นส่วนสมุนไพรแบบห่อผ้าในกระปุกมีอายุการใช้งานสั้นกว่าชนิดอื่น ๆ หากพบว่ามีสีกลิ่นเปลี่ยนไปหรือพบสิ่งแปลกปลอม ควรหยุดใช้ทันที
“หงส์ไทย” ประกาศเรียกคืนสินค้าล็อตที่มีปัญหา
หลังจาก อย. เผยแพร่ผลการตรวจสอบ บริษัทผู้ผลิตยาดมสมุนไพร “หงส์ไทย” ได้ออกแถลงการณ์ยอมรับผลตรวจผ่านเพจเฟซบุ๊ก “บริษัทสมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด -เพจสำนักงานใหญ่” ในวันที่ 28 ต.ค. 2568 และชี้แจงว่าได้ดำเนินการเรียกคืนผลิตภัณฑ์ยาดม สูตร 2 รุ่นการผลิตที่ 000332 (วันที่ผลิต 09/12/2024 และวันที่สิ้นอายุ 08/12/2027) จำนวน 200,000 กระปุก จากท้องตลาดเพื่อทำลายทิ้ง
“บริษัทฯ ขอน้อมรับผลการตรวจสอบดังกล่าวด้วยความเคารพ และได้ดำเนินการเรียกคืนสินค้าทั้งหมดจากท้องตลาดเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้ประสานงานกับทาง อย. เพื่อดำเนินการทำลายสินค้าล็อตดังกล่าวให้เร็วที่สุด โดยทางบริษัทฯจะประกาศวันที่แน่ชัดให้ทราบอีกครั้ง ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการปรับปรุงและยกระดับกระบวนการผลิตให้เข้มงวดขึ้น โดยเพิ่มขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพในทุกระดับ ผ่านการฆ่าเชื้อด้วย รังสี Ultraviolet เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ตลาดมีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน” บริษัทสมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด ระบุในแถลงการณ์

ข้อสรุปโคแฟค
ข้อความในกลุ่มเฟซบุ๊ก “Thai Community in Perth Western Australia” เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2568 ว่าสนามบินเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารนำยาดมเข้าประเทศ พร้อมแนบรูปยาดมสมุนไพรแบบกระปุกของไทยนั้นมีเนื้อหาจริง เนื่องจากสอดคล้องกับคำชี้แจงของกระทรวงเกษตรฯ ออสเตรเลียที่ระบุในอีเมลตอบกลับโคแฟคว่ายาดมสมุนไพรแบบแห้งเป็นสิ่งของต้องสำแดง ณ สนามบินทุกแห่งก่อนเข้าประเทศออสเตรเลีย เพราะจัดอยู่ในผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องหอม ดอกไม้แห้ง และสมุนไพรแห้งที่มีส่วนประกอบของเมล็ดพันธุ์ ฝัก และส่วนอื่น ๆ ของพืชซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงทางชีวภาพสูง ผู้โดยสารที่นำยาดมสมุนไพรแบบแห้งติดตัวมาด้วยจะต้องสำแดงเพื่อให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรของทุกสนามบินในออสเตรเลียตรวจสอบ

 
         
        