หัวไชเท้ากำจัดสารพัดพิษได้จริงหรือ?
วันที่ 21 ตุลาคม 2568 รายการ “รวมพลคนเช็กข่าว” EP.22 โดย COFACT ได้นำเสนอประเด็นร้อนในโลกออนไลน์เกี่ยวกับสรรพคุณของหัวไชเท้าที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็น “อาหารทางการแพทย์อันดับสองของโลก” และมีคุณสมบัติกำจัดสารพิษ ขับมะเร็ง และรักษาโรคสารพัด ผู้ร่วมรายการประกอบด้วย สุภิญญา กลางณรงค์ ผู้ร่วมก่อตั้ง COFACT, รศ.ดร.วันทนีย์ เกรียงสินยศ อาจารย์ประจำหลักสูตรโภชนาการและการกำหนดอาหาร สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล, กฤษฎา วงศ์ไข่ จากวิทยุชุมชนคนเมืองลี้ ลำพูน และผู้ดำเนินรายการ สุชัย เจริญมุขยนันท
สุภิญญา กลางณรงค์ เริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามถึงกระแสในโซเชียลมีเดียที่แชร์ว่าหัวไชเท้ามีสรรพคุณมหัศจรรย์เช่น ขับเชื้อโรค บำรุงหัวใจ ลดคอเลสเตอรอล และฟื้นฟูตับไต เธอระบุว่าข้อมูลเหล่านี้มักวนเวียนตามเทศกาล เช่นช่วงกินเจ ซึ่งทำให้คนสงสัยว่าจริงหรือเกินจริง พร้อมแนะนำให้ระวังการแชร์ข้อมูลที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด โดยเฉพาะในเรื่องสุขภาพที่อาจส่งผลกระทบร้ายแรงได้
กฤษฎา วงศ์ไข่ เริ่มเปิดคำถามว่า แชร์กันในโลกออนไลน์ว่าหัวไชเท้าเป็นผักที่มีความพิเศษ คือเป็นตัวช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน กำมะถันในหัวไชเท้าจะช่วยขับไล่พิษทุกชนิดที่อยู่ในลำไส้ หรือขับปรสิตต่าง ๆ ที่อยู่ในตัวเราไปได้ จริงหรือไม่
รศ.ดร.วันทนีย์ เกรียงสินยศ ให้ข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์โดยอธิบายว่าหัวไชเท้าเป็นพืชที่มีสารกลุ่ม ออร์กาโนซัลเฟอร์ (organosulfur) เช่น กลูโคซิโนเลต(glucosinolate) ซึ่งพบในผักตระกูลกะหล่ำ เช่น บรอกโคลี และกระเทียม สารเหล่านี้มีประโยชน์ต่อพืชในการป้องกันแมลง และในร่างกายมนุษย์อาจช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน แต่ไม่สามารถยืนยันว่าฆ่าพยาธิหรือปรสิตในลำไส้ได้โดยตรง
การอ้างว่าหัวไชเท้าทำให้หลอดเลือดสะอาดหรือลดคราบจุลินทรีย์ก็ขาดหลักฐานในมนุษย์ โดยงานวิจัยส่วนใหญ่เป็นการทดลองในหลอดทดลองหรือในหนู ซึ่งพบว่าสารสกัดจากหัวไชเท้าอาจลดคอเลสเตอรอลในหนูที่มีระดับคอเลสเตอรอลสูงหลังให้สารสกัดนาน 2-3 เดือน แต่ไม่มีการศึกษาในคนที่ยืนยันผลชัดเจน

สำหรับการอ้างว่าหัวไชเท้าขับมะเร็งได้เกือบทุกชนิดอาจารย์วันทนีย์ยืนยันว่าเกินจริง มีเพียงงานวิจัยในหลอดทดลองที่พบว่าสารสกัดบางชนิดยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งบางประเภท แต่ไม่มีการศึกษาในมนุษย์ที่ยืนยันว่าสามารถรักษามะเร็งได้ ส่วนการขับโลหะหนักเช่น ตะกั่ว ปรอท หรือสารหนู และการป้องกันโรคระบบประสาท เช่น ALS หรือ MS ก็ไม่มีหลักฐานรองรับ โดยเฉพาะ ALS ซึ่งเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่ยังไม่มีวิธีรักษาที่ชัดเจนในทางการแพทย์
นอกจากนี้ การจัดให้หัวไชเท้าเป็น “อาหารทางการแพทย์อันดับสองของโลก” ถูกระบุว่าไม่เป็นความจริง อาหารทางการแพทย์ (Medical Food) ต้องเป็นสูตรพิเศษที่ออกแบบสำหรับโรคเฉพาะ เช่น เบาหวานหรือโรคไต และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือนักโภชนาการ โดยไม่มีระบบการจัดอันดับอาหารทางการแพทย์ใดๆ
กฤษฎา วงศ์ไข่ ถามถึงความเชื่อพื้นบ้าน เช่น การกินหัวไชเท้าคู่กับกระเทียมเพื่อรักษาโรคเก๊าท์ ซึ่งอาจารย์วันทนีย์ตอบว่าไม่มีหลักฐานยืนยันผลโดยตรง แต่การกินผักหลากหลาย รวมถึงหัวไชเท้า อาจช่วยเสริมสุขภาพโดยรวมได้หากกินอย่างสมดุล เขายังสะท้อนถึงความท้าทายในการใช้ข้อมูลวิทยาศาสตร์หักล้างความเชื่อพื้นบ้าน โดยแนะนำให้เผยแพร่ข้อมูลอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงข้อขัดแย้ง
หัวไชเท้ามีประโยชน์จากสารออร์กาโนซัลเฟอร์และใยอาหารที่ช่วยเสริมสุขภาพทั่วไป แต่การอ้างสรรพคุณเกินจริง เช่น ขับมะเร็ง ขจัดโลหะหนัก หรือป้องกันโรคระบบประสาท ขาดหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับงานวิจัยส่วนใหญ่จำกัดอยู่ที่การทดลองในหลอดทดลองหรือในหนู ไม่สามารถยืนยันผลในมนุษย์ได้
การจัดให้หัวไชเท้าเป็น “อาหารทางการแพทย์อันดับสองของโลก” ก็ไม่เป็นความจริง เนื่องจากหัวไชเท้าเป็นเพียงอาหารทั่วไป ไม่ใช่อาหารทางการแพทย์
ควรแชร์หรือไม่? อาจารย์แนะนำว่า ไม่ควรแชร์ ข้อมูลที่เกินจริงเหล่านี้ เพราะอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่อาจละเลยการรักษาทางการแพทย์ที่เหมาะสม การกินหัวไชเท้าควรเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่หลากหลายและสมดุล เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดโดยไม่คาดหวังผลเกินจริง
ทั้งนี้ ผู้ร่วมรายการย้ำว่า การกินอาหารควรเน้นความหลากหลายและสมดุลตามหลักโภชนาการ และหากมีข้อสงสัยด้านสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อคำแนะนำที่เหมาะสม