‘The Hand Steeple’จากท่ามือเสริมบุคลิกผู้นำ สู่ทฤษฎีสมคบคิดเชื่อมโยง‘อิลลูมินาติ’

 By : Zhang Taehun

“นี่ไม่บังเอิญหรอกนะ ดูกันชัดๆ สัญลักษณ์ลับการแทรกแซงของแยงกี้ มันคือสัญลักษณ์สมาคมลับอิลลูมินาติผู้กุมอำนาจสูงสุดอยู่เบื้องหลังการเมืองการปกครองของโลก โดยมุ่งดำเนินการในทางลับเพื่อก่อตั้ง ‘ระเบียบโลกใหม่’ โดยการแทรกแซงชีวิตประจำวัน การเมือง การปกครอง ของชาติที่เป็นเป้าหมาย”

โพสต์หนึ่งที่ถูกแชร์ในพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เป็นข้อความข้างต้นพร้อมกับรูปของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่เพิ่งชนะเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 โดยเป็นรูปที่ พิธา ถ่ายกับผู้ที่มาร่วมฟังปราศรัยของพรรคก้าวไกลสักเวทีหนึ่ง แต่ถูกนำมาตั้งข้อสังเกตจากผู้โพสต์ว่า หัวหน้าพรรคก้าวไกลทำท่ามือที่ดูเหมือนกับเป็น รหัสลับ ขององค์กรลับอย่าง อิลลูมินาติ (Illuminati)” ซึ่งมักจะถูกกล่าวถึงเสมอในทฤษฎีสมคบคิดว่ามีองค์กรลับที่บงการทั้งโลกอยู่เบื้องหลัง

ภาพดังกล่าวยังมีการเปรียบเทียบกับผู้นำอีกหลายชาติ อาทิ อังเกลา แมร์เคิล อดีตนายกรัฐมนตรีเยอรมนี , โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา , เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ประธานาธิบดีตุรกี เป็นต้น ที่เคยทำท่ามือแบบเดียวกัน บางภาพมีการนำภาพ “Eye of Providence” ที่อยู่ในธนบัตร 1 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมักถูกผู้ที่เชื่อใน ทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory)” อ้างว่าเป็นสัญลักษณ์ขององค์กรอิลลูมินาติ ไปใส่ประกบรวมอยู่ด้วยเพื่อจะบอกกับผุ้รับสารว่า บรรดาผู้นำชาติต่างๆ ล้วนแต่เป็นสมาชิกหรือทำงานให้กับองค์กรนี้

รายงานพิเศษเรื่อง “The Eye of Providence: The symbol with a secret meaning?” ของสำนักข่าว BBC เมื่อปี 2563 อธิบายที่มาที่ไปของสัญลักษณ์ Eye of Providence (หรืออีกชื่อหนึ่งคือ All-Seeing Eye of God) ว่า เดิมที Eye of Providence เป็นสัญลักษณ์ของชาวคริสต์ และตัวอย่างแรกสุดของการใช้สามารถพบได้ในศิลปะทางศาสนาในยุคเรอเนซองส์เพื่อเป็นตัวแทนของพระเจ้า ตัวอย่างแรกคือภาพวาด Supper at Emmaus ผลงานของ Pontormo ศิลปินชาวอิตาลี ในปี ค.ศ.1525 (พ.ศ.2068) หรือเมื่อเกือบ 500 ปีก่อน แม้ว่าสัญลักษณ์จะถูกวาดในภายหลัง บางทีอาจจะเป็นในช่วงทศวรรษที่ 1600s (พ.ศ.2143-2152) 

นอกจากนั้นยังมีหนังสือชื่อ Iconologia ถูกเผยแพร่ครั้งแรกในปี ค.ศ.1593 (พ.ศ.2136) ในการพิมพ์ครั้งต่อๆ มา Eye of Providence ถูกรวมไว้เป็นคุณลักษณะของการแสดงตัวตนของ “Divine Providence” ซึ่งก็คือ ความเมตตากรุณาของพระเจ้า ตามชื่อของสัญลักษณ์และการใช้ในช่วงแรก สัญลักษณ์นี้ถูกประดิษฐ์ขึ้นเพื่อเป็นเครื่องหมายของการที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเฝ้ามองมนุษยชาติด้วยความเมตตา

ในเวลาต่อมา สัญลักษณ์ Eye of Providence ถูกนำไปใช้ในหลากหลายความหมายและหลายชาติ หนึ่งในนั้นคือ สหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ.1782 (พ.ศ.2328) อันเป็นช่วงเริ่มก่อตั้งประเทศ โดย ชาร์ลส์ ทอมป์สัน (Charles Thomson) เลขาธิการสภาคองเกรสแห่งภาคพื้นทวีป และ วิลเลียม บาร์ตัน (William Barton) ทนายความ ร่วมกันออกแบบ โดยมีพีระมิด 13 ชั้น แทน 13 มลรัฐแรกเริ่มของการสร้างชาติ แล้วให้ Eye of Providence ลอยอยู่ด้านบนเป็นส่วนยอด สื่อถึง ความแข็งแกร่งและทนทาน (Strength and Duration)” โดยมีพระผู้เป็นเจ้าทรงเฝ้ามองอย่างเห็นอกเห็นใจประเทศเกิดใหม่นี้

อดัม ไวเชิพท์ (Adam Weishaupt)

สำหรับชื่อองค์กรอิลลูมินาติ ในทางประวัติศาสตร์ถูกระบุว่าก่อตั้งโดย อดัม ไวเชิพท์ (Adam Weishaupt) ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายชาวเยอรมนี บทความ “Meet the Man Who Started the Illuminati” ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์สื่อสารคดีชั้นนำอย่าง National Geographic ระบุว่า ไวเชิพท์ เกิดที่เมืองอินกอลสตาดท์ แคว้นบาวาเรีย (ปัจจุบันคือรัฐบาวาเรีย) เมื่อปี ค.ศ.1748 (พ.ศ.2291) เป็นเด็กกำพร้าใช้ชีวิตอยู่กับผู้เป็นลุง เมื่อโตขึ้นได้เป็นอาจารย์สอนวิชากฎหมายธรรมชาติและกฎหมายศาสนจักร (Natural and Canon Law) และดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ ที่มหาวิทยาลัยอินกอลสตาดท์ 

ตามประวัติแล้ว ไวเชิพท์ มีนิสัยรักการอ่านหนังสืออย่างมาก โดยเฉพาะหากเป็นงานเขียนของนักปรัชญายุครู้แจ้งชาวฝรั่งเศส ซึ่งบ้านของลุงก็มีห้องสมุดส่วนตัว ยิ่งส่งเสริมการอ่านได้เป็นอย่างดี และแม้ว่าแคว้นบาวาเรียในเวลานั้นแนวคิดกระแสหลักจะเป็นแบบอนุรักษ์นิยม แต่ ไวเชิพท์ เป็นคนหนึ่งที่มองว่า การปกครองและความเชื่อทางศาสนาที่ดำรงอยู่ไม่อาจตอบโจทย์สังคมสมัยใหม่ ในตอนแรก เขาคิดจะเข้าร่วมกับสมาคม ฟรีเมสันส์ (Freemasons)” องค์กรที่เผยแพร่คำสอนให้ผู้คนมีเสรีภาพทางความคิด แต่ต่อมาก็ตัดสินใจตั้งสมาคมของตนเอง

ไวเชิพท์ไม่ได้ต่อต้านศาสนา แต่เป็นวิธีที่ปฏิบัติและบังคับใช้ เขาเขียนเสนอแนวคิดเสรีภาพจากอคติทางศาสนาทั้งหมด ปลูกฝังคุณธรรมทางสังคม และทำให้พวกเขาเคลื่อนไหวด้วยโอกาสที่ยิ่งใหญ่ เป็นไปได้ และรวดเร็วในความสุขสากล เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ จำเป็นต้องสร้างสภาวะแห่งเสรีภาพและความเสมอภาคทางศีลธรรม ปราศจากอุปสรรคซึ่งการอยู่ใต้บังคับบัญชา ยศถาบรรดาศักดิ์ และความร่ำรวย ขัดขวางเราอย่างต่อเนื่อง

ผู้ร่วมก่อตั้งอิลลูมินาติกลุ่มแรกทำพิธีสถาปนาองค์กรกันในคืนวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ.1776 (พ.ศ.2319) ในป่าใกล้กันเมืองอินกอลสตาดท์ มีการตั้งกฎขององค์กร รวมถึงการรับสมาชิกใหม่ต้องได้รับการยินยอมสมาชิกก่อนหน้า ในตอนแรกสมาชิกใหม่จะมาจากบรรดาลูกศิษย์ของ ไวเชิพท์ แต่ภายหลังได้ขยายออกไปในหลากหลายสาขาอาชีพ กระทั่งในปี ค.ศ.1784 (พ.ศ.2327) เมื่อทางการเริ่มรับรู้การมีตัวตนและเริ่มมาตรการกวาดล้าง ว่ากันว่าเวลานั้นมีสมาชิกราว 2,000-3,000 คน โดยเฉพาะในปี ค.ศ.1787 (พ.ศ.2330) ที่ใช้ยาแรงถึงขั้นออกประกาศว่าการเข้าเป็นสมาชิกสมาคมที่ก่อตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษถึงขั้นประหารชีวิต 

หลังสมาคมอิลลูมินาติถูกเปิดโปง ไวเชิพท์ สูญเสียงานที่มหาวิทยาลัยอินกอลสตาดท์ และต้องหลบหนีไปอยู่ที่เมืองโกธา แคว้นแซกโซนี (ปัจจุบันอยู่ในภาคกลางของเยอรมนี) แต่ยังได้งานสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยเกิททิงเก็น แต่ถึงองค์กรอิลลูมินาติภายใต้การก่อตั้งของ ไวเชิพท์ จะจบลง ชื่อของอิลลูมินาติก็ได้กลายเป็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดเวลาจะกล่าวถึงทฤษฎีสมคบคิดเรื่องมีสมาคมลับคอยบงการความเป็นไปของโลกอยู่เบื้องหลัง มาจนถึงปัจจุบัน 

The Illuminatus! Trilogy : จากนิยายสู่เรื่องที่คนเชื่อว่าจริง

รายงานข่าว กำเนิด อิลลูมินาติจากเรื่องแต่งเสียดสีสังคม สู่ทฤษฎีสมคบคิดที่มีคนหลงเชื่อมากที่สุดในโลก โดยสำนักข่าว BBC ของอังกฤษ ในเวอร์ชั่นภาษาไทย เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2562 ระบุว่า สิ่งที่ทำให้อิลลูมินาติกลายเป็นชื่อที่โด่งดังของยุคใหม่ในฐานะองค์กรลับเบื้องหลังทุกสิ่งอย่าง คือนิยายไตรภาค “The Illuminatus! Trilogy” ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ.1975 (พ.ศ.2518) เนื้อหาเป็นการจับโยงเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ เช่น การลอบสังหารประธานาธิบดีสหรัฐฯ จอห์น เอฟ. เคเนดี (JFK) ไปโยงเข้ากับงอิลลูมินาติ ซึ่งไม่เพียงจะเป็นนิยายขายดี ยังทำให้คนอ่านเชื่อไปด้วยว่าองค์กรลับที่ว่านี้มีอยู่จริง

กลับมาที่ภาพการวางมือของผู้นำทางการเมืองที่ถูกนำไปเชื่อมโยงกับองค์กรอิลลูมินาติ ท่ามือแบบนี้เรียกว่า The Hand Steeple โดยสำนักข่าวออนไลน์ชื่อดังในสหรัฐฯ อย่าง Insider (Business Insider) เผยแพร่บทความ 5 body language behaviors from a retired FBI agent to help improve your confidence” เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2561 อ้างอิงเนื้อหาจากหนังสือ The Dictionary of Body Language (ฉบับแปลไทยใช้ชื่อว่า “พจนานุกรมอ่านคนตั้งแต่หัวจรดเท้า”) ซึ่งเขียนโดย โจ นาวาร์โร (Joe Navarro) อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) ได้อธิบายความหมายของ The Hand Steeple ไว้ว่า

“The Hand Steeple คือการทำท่ามือโดยวางประกบปลายนิ้วของมือทั้งสอข้างเข้าด้วยกัน กางฝ่ามือสองข้างออก แล้วงอมือเพื่อให้ปลายนิ้วมือดูเหมือนยอดแหลมของโบสถ์ นี่เป็นการแสดงความมั่นใจแบบสากลและมักใช้โดยผู้ที่อยู่ในตำแหน่งผู้นำ ซึ่งเป็นท่าที่ อังเกลา แมร์เคิล นายกฯ เยอรมนี มักใช้บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าความมั่นใจไม่ได้รับประกันความถูกต้องเสมอไป บุคคลอาจผิดในข้อเท็จจริงแต่มั่นใจในขณะที่พูด อย่างไรก็ตาม ท่าดังกล่าวก็มีประโยชน์ในการโน้มน้าวผู้อื่นถึงความมุ่งมั่นของคุณต่อสิ่งที่คุณกำลังคิดหรือพูด” 

17 พ.ค. 2566 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในท่า The Hand Steeple ขณะถ่ายรูปร่วมกับผู้นำพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ที่ร้าน Chez Miline 

ทั้งนี้ หากนำคำว่า The Hand Steeple (หรือ The Hand Steeple Gesture , Steepling Hands) ไปค้นหาใน Google จะมีบทความมากมายระบุว่า เป็นท่ามือยอดนิยมของบรรดา ผู้นำ ไม่ว่าทางการเมืองหรือทางธุรกิจ อาทิ บทความ 7 HAND GESTURE BODY LANGUAGE TIPS TO INFLUENCE COMMUNICATION” บนเว็บไซต์ sandygerber.com ของ แซนดี เกอร์เบอร์ (Sandy Gerber) ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารชาวแคนาดา อธิบายไว้ว่า

“Steepling Hands เป็นคำที่บัญญัติโดย ศ.เรย์ เบิร์ดวิสเทล (Prof.Ray Birdwhistell) เป็นท่าที่นิ้วของมือข้างหนึ่งกดเบาๆ กับนิ้วของมืออีกข้างและก่อตัวเป็นยอดแหลมของโบสถ์ เบิร์ดวิสเทล ตั้งข้อสังเกตว่า คนที่มองว่าตัวเองมีชื่อเสียงและอยู่ในกลุ่มชนชั้นสูงจะใช้ท่าทางที่เรียบง่าย และมักจะใช้ตำแหน่งนิ้วชี้ที่จำกัดเพื่อแสดงทัศนคติที่มั่นใจ” 

สำหรับ ศ.เรย์ เบิร์ดวิสเทล นั้นเป็นนักมานุษยวิทยาชาวอเมริกัน ที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาภาษากายของมนุษย์ ทั้งนี้ บทความยังกล่าวอีกว่า ท่า The Hand Steeple ยังมี 2 รุปแบบ คือ “Raised Steeple” เมื่อยกนิ้วขึ้นที่ด้านหน้าของหน้าอก ผู้พูดกำลังแสดงความคิดเห็นและความคิด ขอแนะนำให้ใช้ท่านี้ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากท่านี้อาจสื่อถึงความเย่อหยิ่งหรือทัศนคติที่รู้ทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากศีรษะของบุคคลนั้นเอียงไปด้านหลัง กับ “Lower Steeple” เมื่อนิ้วอยู่ในตำแหน่งท่อนล่างรอบเอว บุคคลนั้นมักจะฟังมากกว่าพูด ที่น่าสนใจคือ การวิจัยระบุว่าผู้หญิงมักจะใช้ท่า Lower มากกว่า Raised

อนึ่ง ท่าวางมือของ อังเกลา แมร์เคิล มีคำเรียกเฉพาะว่า “Merkel-Raute” หรือในสื่อที่ใช้ภาษาอังกฤษจะเรียกว่า สามเหลี่ยมแห่งอำนาจ (Triangle of Power)” โดยเว็บไซต์ The Local สำนักข่าวออนไลน์ร่วมของหลายประเทศในยุโรป เผยแพร่บทความ “German words you need to know: Die Merkel-Raute” เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2564 ระบุว่า ท่าทางนี้มีลักษณะเฉพาะคือวางมือไว้ด้านหน้าท้องเพื่อให้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ของมือแต่ละข้างมาบรรจบกันเป็นรูปสี่เหลี่ยม 

บรรดานักรัฐศาสตร์มองว่า ท่า Merkel-Raute เป็นสัญญาณภาพที่มีประสิทธิภาพที่แสดงถึงชื่อเสียงของ Merkel ในฐานะผู้นำที่เชื่อถือได้ สงบนิ่ง และมั่นคง ช่วยป้องกันการเคลื่อนไหวที่กระสับกระส่ายหรือกระวนกระวายใจในระหว่างการพูดในที่สาธารณะและห่อหุ้มความมั่นคงขอแมร์เคิลไว้ในขณะที่แสดงความเปิดกว้าง อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์กล่าวหาว่าเธอใช้ท่าทางดังกล่าวเพื่อส่งเสริมลัทธิบูชาตัวบุคคล (Cult of Personality) โดยกล่าวหาว่าเธอให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของความมั่นคงและความสุขุมเหนือชุดนโยบายเฉพาะ

อังเกลา แมร์เคิล (ขวา) ผู้นำหญิงแห่งเยอรมนี กับท่าประจำของเธอ “Merkel-Raute”

โดยสรุปในเบื้องต้น เท่าที่ค้นหาทางอินเตอร์เน็ต (ณ ค่ำคืนวันที่ 22 ล่วงเข้าวันที่ 23 พ.ค. 2566) ผู้เขียนก็ยังไม่พบชุดข้อมูลใดที่จะอธิบายได้ว่า ท่า The Hand Steeple หรือ Merkel-Raute ถูกนำไปเกี่ยวข้องในฐานะการทำมือเป็นรหัสลับของสมาชิกองค์กรอิลลูมินาติได้อย่างไร แต่ในเมื่อไม่มีหลักฐานใดพิสูจน์ได้ว่าองค์กรลับที่เคยมีตัวตนอยู่เมื่อกว่า 200 ปีก่อนยังดำเนินการอยู่ (ไม่ว่าจะโดยสมาชิกสืบทอดจากกลุ่มเดิม หรือมีการตั้งกลุ่มใหม่แล้วนำชื่อมาใช้) 

อย่างน้อยก็ค่อนข้างเชื่อได้ว่า ท่ามือชนิดนี้ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่ากลยุทธ์การใช้ภาษากายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้พบเห็น ซึ่งเป็นทักษะหนึ่งที่บรรดาผู้นำต้องมี!!!

-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-

อ้างอิง

https://www.bbc.com/culture/article/20201112-the-eye-of-providence-the-symbol-with-a-secret-meaning (The Eye of Providence: The symbol with a secret meaning? : BBC 13 พ.ย. 2563) 

https://www.nationalgeographic.com/history/history-magazine/article/profile-adam-weishaupt-illuminati-secret-society (Meet the Man Who Started the Illuminati : National Geographic)

https://www.bbc.com/thai/international-50892736 (กำเนิด ‘อิลลูมินาติ’ จากเรื่องแต่งเสียดสีสังคม สู่ทฤษฎีสมคบคิดที่มีคนหลงเชื่อมากที่สุดในโลก : BBC 23 ธ.ค. 2562)

https://www.insider.com/body-language-how-to-improve-confidence-2018-8#hand-steepling-2 (5 body language behaviors from a retired FBI agent to help improve your confidence : Inseder 29 ส.ค. 2561)

https://sandygerber.com/7-hand-gesture-body-language-tips-to-influence-communication/ (7 HAND GESTURE BODY LANGUAGE TIPS TO INFLUENCE COMMUNICATION)

https://www.thelocal.de/20210726/german-words-you-need-to-know-die-merkel-raute (German words you need to know: Die Merkel-Raute : 26 ก.ค. 2564)