‘วันตรวจสอบข่าวลวงโลก 2568’ ภาคีเครือข่ายย้ำ‘ตรวจสอบข้อเท็จจริง’เรื่องของทุกคน

กิจกรรม

2 เม.ย. 2568 Cofact (ประเทศไทย) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

มูลนิธิฟรีดริช เนามัน เพื่อเสรีภาพ  Change Fusion The Centre for Humanitarian Dialogue (HD) สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สภาองค์กรของผู้บริโภคสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย Thai PBS

AFP ประเทศไทย  สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP)  ชัวร์ก่อนแชร์ อสมท  กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์จัดงาน วันตรวจสอบข่าวลวงโลก 2568 (International Fact-Checking Day 2025) สงครามข้อมูล 2025: โจทย์แห่งความจริงในยุควิกฤตความเชื่อมั่น The Battle for Truth: Reclaiming Information Integrity in the Age of Distrust” ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครพร้อมถ่ายทอดสดทางเพจ Thai PBS และ Cofact โคแฟค 

รศ.ดร.ปรีดา อัครจันทโชติ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า โลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยข้อมูลและคำถามต่างๆ มากมาย ไม่ใช่เพียงอะไรคือความจริง แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่เชื่อหรือสิ่งที่ส่งต่อนั้นเป็นความจริง และใครมีอำนาจบอกได้ว่าอะไรจริงหรือเท็จ ซึ่งในยุคปัจจุบันที่ทุกคนเป็นทั้งผู้ส่งและรับสาร ความสามารถในการกลั่นกรองจึงไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นทักษะที่จำเป็นในการอยู่รอดของประชาธิปไตย สติปัญญาและสุขภาพจิตของสังคม 

“ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2568 ที่ผ่านมา เราจะเห็นว่ามีการส่งต่อข้อมูลผิดไม่ว่าจะเป็นเรื่องจุดศูนย์กลาง ความรุนแรงหรือผลกระทบของแผ่นดินไหว จนสร้างความตื่นตระหนกโดยไม่จำเป็น หรือแม้แต่ในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจทางการเมืองที่ผ่านมาก็จะมีข้อเท็จจริงบางอย่างถูกตัดทอน บิดเบือนหรือแม้แต่ถูกปลอมแปลง จนกลายเป็นเครื่องมือชี้นำความคิดเห็นต่อสาธารณะ ทั้ง 2 กรณีนี้สะท้อนให้เห็นว่าข้อมูลที่ผิดพลาดจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจ ต่อความมั่นคงทางอารมณ์ แม้แต่ความปลอดภัยของสาธารณชนได้โดยตรง” รศ.ดร.ปรีดา กล่าว

เบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่นานนี้ การตรวจสอบข่าวและมีคนที่ถือโอกาสเสนอสิ่งต่างๆ การสื่อสารผ่านช่องทางที่เรากำลังอยากได้พอดี ทำให้เห็นว่าระบบข้อมูลสำคัญมาก ซึ่งไม่ใช่เฉพาะหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจหรือภาคใดๆ แต่ต้องทำงานร่วมกัน อย่างเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2568 มีการสื่อสารเกิดขึ้นมากแบบท่วมท้น อีกทั้งเห็นความแตกต่าง

ด้วย สสส. มีความมุ่งมั่นพัฒนาระบบนิเวศสื่อสุขภาวะ การสร้างปัจจัยสิ่งแวดล้อม โคแฟคเป็นหนึ่งในนั้น เราจะทำอย่างไร เราไม่สามารถบอกว่าออกกฎหมาย 1 ฉบับ ส่งอันนี้ให้คนนี้มาทำงาน เราจะไมสามารถเกิดอันนั้นเลยถ้าเรายังไม่เห็นความสำคัญว่าสิ่งอะไรที่กำลังจะตามมา ทาง World Economic Forum บอกว่าข้อมูลเท็จและข้อมูลบิดเบือนยังเป็นสาเหตุสำคัญอันดับ 1 ติดต่อกันมาแล้ว 2 ปี แปลว่าเราก็ยังไม่สามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้เบญจมาภรณ์ กล่าว

วาเนสซ่า สไตน์เม็ทซ์ ผู้อำนวยการโครงการประจำประเทศไทยและเวียดนาม มูลนิธิฟรีดริช เนามัน เพื่อเสรีภาพ หนึ่งในองค์กรร่วมจัดงานครั้งนี้ แนะนำมูลนิธิฯ ว่า อยู่ภายใต้การสนับสนุนของภาคการเมืองฝ่ายเสรีนิยมในเยอรมนี โดยนอกจากการสนับสนุนงานตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้อมูล (Fact Checking) แล้วยังส่งเสริมการเป็นประชาธิปไตย โดยทำงานใน 60 ประเทศทั่วโลก

แดเนียล ฟังเก้ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนดิจิทัลสำหรับเอเชียแปซิฟิก สำนักข่าว AFP ฮ่องกง ปาฐกถาหัวข้อ สงครามข้อมูล: การทวงคืนความเชื่อมั่นสื่อในยุควิกฤตศรัทธา” กล่าวว่า AFP เป็นสำนักข่าวที่มีพนักงานตำแหน่งนักตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ 150 คน ใน 26 ภาษาทั่วโลก รวมถึงส่งผู้สื่อข่าวไปทำข่าวในพื้นที่ที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเพื่อให้เข้าถึงข้อมูลตั้งแต่เบื้องต้น ซึ่งยุคปัจจุบัน สงครามข้อมูลข่าวสารเป็นสิ่งที่หลีกหนีไม่พ้น มีข่าวปลอมแพร่หลาย ความเชื่อมั่นก็ลดลงเพราะไม่รู้จะเชื่อข่าวด้านไหน ไม่ว่าจะเป็นสำนักข่าวที่สนับสนุนหรือเห็นต่างจากรัฐบาลก็ตาม

ข้อเท็จจริงยังสำคัญ ความรู้เท่าทันสื่อเป็นสิ่งจำเป็นและไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง ทุกท่านสามารถมีส่วนร่วมและมีบทบาทในการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือว่ารู้เท่าทันสื่อได้เช่นกัน และในส่วนของความเชื่อมั่น ไม่ว่าจะเป็นข่าวปลอมข่าวลวงต่างๆ ที่เกิดขึ้น แน่นอนความเชื่อมั่นอาจไม่สามารถกลับมาได้ในทันทีทันใด แต่ว่าถ้ามีกระบวนการทำซ้ำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มความโปร่งใสและการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องของความเชื่อมั่นข้อมูลก็จะกลับมา แดเนียล กล่าว

เจฟฟ์ กัว ซีอีโอ และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท โกโกลุก จำกัด (Whoscall) ปาฐกภาหัวข้อ ความท้าทายระดับโลกและสงครามข้อมูล: การปฏิวัติ AI เป็นโอกาสหรือความเสี่ยง?” กล่าวว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นทั้งโอกาสและความท้าทายไปในตัว ด้านหนึ่ง AI ช่วยสร้างนวัตกรรมแต่อีกด้านหนึ่งก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ เช่น Deepfake ซึ่งมักจะใช้คู่กับการส่งข้อความ (SMS) แนบ Link มาด้วย

ในปี 2566 มีมูลค่าความเสียหายถึง 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ตีเป็นเงินไทย 34 ล้านล้านบาท มากขนาดไหน? เงินบัญชีงบประมาณของรัฐบาลเราอยู่ที่ไม่เกิน 4 ล้านล้านบาทต่อปี โดยเฉลี่ย 1 ใน 4 คนไทยถูกหลอก มูลค่าความเสียหายต่อ 1 ท่าน เฉลี่ยอยู่ที่ 36,000 บาท ปัญหาหลักของประเด็นนี้คือความเชื่อมั่นทางดิจิทัลถูกบั่นทอน แน่นอนอยู่แล้วว่าเทคโนโลยีมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ในการใช้เทคโนโลยีไปในทางที่ผิด (Misuse หรือ Abuse) ก็ส่งผลเสียตามมา เจฟฟ์ กล่าว    

ในงานนี้ยังมีประกาศความร่วมมือ มอบรางวัลเพื่อส่งเสริมการตรวจสอบข้อมูลของสื่อ (Best Fact-Check and Digital Verification Award 2025)จากหลากหลายองค์กร อาทิ สุภิญญา กลางณรงค์  ผู้ร่วมก่อตั้งภาคีโคแฟค (ประเทศไทย) กล่าวว่า งานวันตรวจสอบข่าวลวงโลกซึ่งจัดขึ้นทุกปี ต้องขอบคุณภาคี เช่น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิฟรีดริช เนามันกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และพันธมิตรอีกหลายองค์กร

ซึ่งจากการที่โคแฟคทำงานตรวจสอบข้อมูลข่าวสารมา 5 – 6 ปี ได้ข้อสรุปบทเรียนว่าแม้พยายามรณรงค์อย่างไรก็ตามให้คนรู้เท่าทันข้อมูล ซึ่งก็สำคัญและจำเป็น แต่ก็ไม่เพียงพอกับการรับมือสงครามข้อมูลข่าวสารที่ถาโถม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ การเมือง สังคม หรือล่าสุดคือ เรื่องภัยพิบัติที่ทุกคนก็รู้สึกว่าไม่รู้จะเชื่อใครได้ อย่างเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2568 ที่ผ่านมา ที่ทุกคนมีประสบการณ์ตรงว่าเป็นแผ่นดินไหวแน่ๆ แต่ก็อยากได้รับการยืนยันจากใครสักคนหนึ่ง เป็น SMS สั้นๆ ก็ยังดี จากหน่วยงานภาครัฐหรือหน่วยงานที่เชื่อถือได้มาบอกเรา 

จริงๆ แล้วไม่ใช่เราไม่รู้ว่าเกิดแผ่นดินไหว แต่ทำไมทุกคนเรียกร้อง? เพราะเราอยากได้รับการยืนยันว่าสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริงแล้วเราจะต้องทำอย่างไรต่อไป ฉะนั้นในการรับมือกับสงครามข้อมูลข่าวสารคงไม่ใช่แค่เน้นให้ประชาชนรู้เท่าทันสื่อเท่านั้น แต่จะต้องยกระดับการแก้ปัญหาทั้งระบบ ไฮไลท์ของปีนี้จึงมีในส่วนของการประกาศความร่วมมือสุภิญญา กล่าว

อรพิน เหตระกูล เลขาธิการสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ กล่าวว่า สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์มีการประกวดข่าวออนไลน์ยอดเยี่ยมทุกปี โดยปีนี้เข้าสู่ปีที่ 11 แล้ว มีความร่วมมือกับทางโคแฟค ช่วยเพิ่มรางวัลในสาขา Best Fact Checking & Verification News (รางวัลยอดเยี่ยมด้านการตรวจสอบข่าวและยืนยันข้อเท็จจริง) เป็นการสร้างพื้นฐานการตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้อมูลข่าวสารให้กับคนทำงานสื่อมวลชน และเป็นกำลังใจให้คนทำงาน 

การประกวดข่าวก็จะเริ่มขึ้นภายในปลายปีนี้ ก็จะได้เรียนเชิญสื่อมวลชนต่างๆ ส่งชิ้นงานเข้าประกวด แล้วก็เชื่อว่ารางวัลนี้จะเป็นจุดเริ่มต้น เป็นพื้นฐานสำคัญของคนทำงานด้านสื่อมวลชน ให้มีพื้นฐานการทำงานที่เน้นย้ำในเรื่องของการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับหลายองค์กรที่ทำงานเกี่ยวกับด้านข่าว เลขาธิการสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ กล่าว  

ดร.ชำนาญ งามมณีอุดม รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่า กองทุนฯ เป็นองค์กรมหาชนซึ่งมีภารกิจในการส่งเสริมสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ในการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพผู้ผลิตสื่อ ส่งเสริมการรู้เท่าทันสื่อ และเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัย – ไม่สร้างสรรค์ โดยกองทุนฯ ทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายหลายภาคส่วนสนับสนุนมาตรฐานการตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้อมูลข่าวสารในประเทศไทย

เราทำงานร่วมกับ AFP ในการจัดอบรมในการตรวจสอบข้อเท็จจริง และมีหลักสูตรทั้งระดับต้นแล้วก็ระดับสูงจัดทำทุกปี เราร่วมกับโคแฟคในหลายๆ ภูมิภาคในการทำงาน รวมถึงสมาคมวิชาชีพ สภาวิชาชีพสื่อมวลชนต่างๆ ก็ต้องเรียนว่ากองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เราพร้อมที่จะเป็นพันธมิตรและร่วมผลักดันการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเทศไทยต่อไป ดร.ชำนาญ กล่าว

นิภาวรรณ แก้วรากมุกข์ รองประธานสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติมีสมาชิกสื่อวิชาชีพครบทุกแพลตฟอร์มทั้งสิ่งพิมพ์ ออนไลน์และโทรทัศน์ และจำนวนสมาชิกยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยงานของสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติคือการกำกับดูแลกันเอง แต่ก็อยากเชิญชวนไปยังสื่อบุคคล อินฟลูเอนเซอร์ ให้มาเป็นแนวร่วมและใช้แนวปฏิบัติเดียวกัน 

จีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง เลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า สิ่งที่ตนพยายามเสนออยู่ทุกปีคือนักข่าวนอกจากทำหน้าที่ในสนามแล้วยังต้องตรวจสอบข้อมูลทางออนไลน์ด้วย อย่างเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมาก็มีหลายข่าวที่นักข่าวรีบช่วยสถานการณ์ในทันที โดยสมาคมนักข่าวฯ ยินดีที่จะได้ทำงานกับทุกเครือข่าย เพราะมีการอบรมตั้งแต่นักศึกษาที่เรียนด้านข่าว มีเครือข่ายนักวิชาการ ทำงานร่วมกับองค์กรสื่อ เช่น สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ หรือล่าสุดคือ Whoscall ที่พูดคุยกันเรื่องแก้ปัญหาข่าวปลอม

ดร.ศรีดา ตันทะอธิพานิช กรรมการผู้จัดการมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย กล่าวว่า งานข้อมูลนิธิฯ เน้นไปที่การปกป้องเด็กและเยาวชน รวมถึงผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง เป็นการทำงานในเชิงป้องกัน แต่เมื่อตกเป็นเหยื่อแล้วก็ยังถูกกระทำซ้ำด้วยข้อมูลปลอมต่างๆ ดังนั้นเรื่องนี้จึงมีความสำคัญตั้งแต่การป้องกัน (Prevention) การปกป้อง (Protection) การดำเนินคดี (Prosecution) และการส่งเสริม (Promotion)

ในแง่ของเราคือสนับสนุนเต็มที่ในเรื่องนี้ และเน้น Participation (การมีส่วนร่วม) ของทุกฝ่าย และอยากให้มีรางวัลแบบแยกไปเลยแบบบุคคล เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ กลุ่มเปราะบาง เพราะจริงๆ แล้วเชื่อว่าการสื่อสารในแต่ละกลุ่มเป้าหมายน่าจะมีภาษา มีคาแร็คเตอร์อะไรต่างๆ ที่แตกต่างกัน และอีกอย่างที่เราอยากเน้นส่งเสริมคือบริษัทเทคโนโลยี ควรจะมีบทบาทอย่างมากเลยในการที่จะช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ เพราะเทคโนโลยีเข้ามาแล้วถูกนำไปใช้ในการหลอกลวงเยอะมาก ดร.ศรีดากล่าว

สถาพร อารักษ์วทนะ หัวหน้าฝ่ายสื่อสารสาธารณะและประชาสัมพันธ์ สภาผู้บริโภค กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่มีเครือข่ายพันธมิตรที่เติบโตและเข้มแข็งแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เราเชื่อว่าเรื่องของข่าวลวงจะต้องค่อยๆ ลดน้อยลงหรืออาจเปลี่ยนรูปแบบไป เพราะในเครือข่ายของโคแฟคจะเข้มแข็งขึ้นตลอดเวลา ซึ่งสภาองค์กรของผู้บริโภคจะเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนงานด้านนี้อยู่แล้ว

จริงๆ ตาม พ.ร.บ.การจัดตั้งสภาองค์กรผู้บริโภค เราสามารถที่จะช่วยขยายและทำงานต่อจากโคแฟคได้อีก เพราะใน พ.ร.บ. ได้กำหนดไว้ว่า สภาผู้บริโภคสามารถที่จะบอกชื่อสินค้า บริการและผู้ประกอบการใดๆ ที่ส่งผลอันตรายหรือเข้าข่ายที่จะทำร้ายผู้บริโภค ถ้าท่านใดหรือสำนักข่าวใดไม่กล้าที่จะบอกชื่อผู้ประกอบการ ไม่กล้าที่จะบอกชื่อสินค้า ส่งผ่านมาทางสภาฯ ก็ได้ ช่วยกันบอกว่าอะไรที่ไม่ดีและอะไรที่เป็นข่าวลวง สถาพร กล่าว         

-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-