‘31/ATLAS’ดาวหางจากอวกาศไกลโพ้น จริงหรือที่‘อีลอน มัสก์’เคยพูดว่าอาจเป็น ‘แขกนอกพิภพ’มาเยือน?

By: บัญชา จันทร์สมบูรณ์

ภาพ 01 : ตัวอย่างโพสต์ที่ถูกแชร์เรื่องอีลอน มัสก์ เตือนวัตถุลึกลับในอวกาศอาจเป็นยานของมนุษย์ต่างดาว

Elon Musk เตือนภัยฉุกเฉิน วัตถุลึกลับนอกโลกอาจเป็น ยานแม่ต่างดาว กำลังมุ่งหน้าสู่โลก” 

เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา Elon Musk ได้ออกแถลงการณ์ด่วน เตือนภัยชาวโลกให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังจากมีรายงานน่าตกใจว่า 31/ATLAS วัตถุขนาดมหึมาที่เดินทางมาจากนอกระบบสุริยะ อาจไม่ใช่ดาวเคราะห์น้อยธรรมดา… แต่อาจเป็น ยานแม่ของสิ่งมีชีวิตทรงปัญญา” 

ช่วงวันที่ 7 ต.ค. 2568 ภาพและข้อความทำนองนี้ถูกแชร์อย่างกว้างขวางในสื่อสังคมออนไลน์ของไทย อ้างถึง อีลอน มัสก์ (Elon Musk) มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Tesla และ SpaceX รวมถึงแพลตฟอร์ม X ได้ออกมาเตือนถึงการมาเยือนของ “31/ATLAS” ที่เชื่อมโยงกับ แขกนอกพิภพ หรือมนุษย์ต่างดาว และบ้างก็นำไปเชื่อมโยงกับเรื่องเร้นลับตามความเชื่อทางศาสนา อย่างไรก็ตาม มีการชี้ว่าเป็น “ข่าวลวง” ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชม. เช่น เพจเฟซบุ๊ก “Drama-addict” ระบุว่า อีลอน มัสก์ไม่ได้ออกมาเตือนภัยเกี่ยวกับ 31/ATLAS ขณะที่เมื่อล่วงเข้าสู่วันที่ 8 ต.ค. 2568 พบว่า บรรดาผู้ที่แชร์หลายรายพากันลบออก แต่ก็ยังพอพบเห็นได้อยู่บ้าง

– 31/ATLAS คืออะไร? องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NASA) เผยแพร่บทความ “Comet 3I/ATLAS” ระบุว่า 3I/ATLAS เป็นวัตถุนอกระบบสุริยะดวงที่ 3 ที่ค้นพบและโคจรผ่านบริเวณใกล้ดาวฤกษ์ของเรา (ระบบสุริยะที่โลกดำรงอยู่) แต่จะไม่เป็นอันตรายต่อโลก เนื่องจากยังรักษาระยะห่างค่อนข้างไกล โดยระยะที่ดาวหางดวงนี้จะเข้าใกล้โลกมากที่สุดคือประมาณ 1.8 หน่วยดาราศาสตร์ (ประมาณ 170 ล้านไมล์ หรือ 270 ล้านกิโลเมตร) ทั้งนี้ 3I/ATLAS จะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ในระบบสุริยะของเรามากที่สุดในวันที่ 30 ต.ค. 2568 ที่ระยะห่างประมาณ 1.4 หน่วยดาราศาสตร์ (130 ล้านไมล์ หรือ 210 ล้านกิโลเมตร) ซึ่งอยู่ในวงโคจรของดาวอังคาร

ขนาดและคุณสมบัติทางกายภาพของดาวหางระหว่างดวงดาวกำลังถูกสำรวจโดยนักดาราศาสตร์ทั่วโลก คาดว่าดาวหาง 3I/ATLAS จะยังคงมองเห็นได้ด้วยกล้องโทรทรรศน์ภาคพื้นดินจนถึงเดือน ก.ย.2568 หลังจากนั้นดาวหางจะโคจรเข้าใกล้ดวงอาทิตย์เกินกว่าจะสังเกตได้ และจะปรากฏอีกครั้งที่อีกด้านหนึ่งของดวงอาทิตย์ภายในต้นเดือน ธ.ค.2568 ซึ่งจะทำให้สามารถเฝ้าสังเกตได้อีกครั้งบทความของ NASA ระบุ 

ดาวหาง 3I/ATLAS มีรายงานการพบเห็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2568 โดยกล้องโทรทรรศน์ ATLAS (Asteroid Terrestrial-impact Last Alert System) ในประเทศชิลี จึงถูกนำมาใช้เป็นชื่อดาวหางดวงนี้ ขณะที่ตัวอักษร “I” ย่อมาจาก “Interstellar” ซึ่งบ่งชี้ว่าวัตถุนี้มาจากนอกระบบสุริยะของเรา และเลข 3 หมายถึงการเป็นวัตถุระหว่างดวงดาวดวงที่ 3 ที่โลกของเราได้รู้จัก 

บทความของ NASA ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า 3I/ATLAS ก่อตัวขึ้นในระบบดาวฤกษ์อื่น และถูกผลักออกสู่อวกาศ ซึ่งเป็นพื้นที่ระหว่างดวงดาว ล่องลอยมาเป็นเวลานานหลายล้านหรือหลายพันล้านปีจนกระทั่งมาถึงระบบสุริยะของเราเมื่อไม่นานมานี้ โดยกำลังเคลื่อนที่เข้ามาจากทิศทางทั่วไปของกลุ่มดาวคนยิงธนู ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริเวณใจกลางกาแล็กซีทางช้างเผือกของเรา 

โดยในช่วงที่มีการค้นพบนั้น 3I/ATLAS อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ของเราประมาณ 410 ล้านไมล์ (670 ล้านกิโลเมตร) ภายในวงโคจรของดาวพฤหัสบดีนักดาราศาสตร์ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า 3I/ATLAS มีขนาดใหญ่เพียงใด แต่จากการสังเกตด้วยกล้องโทรทรรศน์ฮับเบิลเมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2568 พบเส้นผ่านศูนย์กลางของดาวหางดวงนี้ คาดว่าไม่น้อยกว่า 1,444 ฟุต (440 เมตร) และไม่กว้างกว่า 3.5 ไมล์ (5.6 กิโลเมตร) ขณะที่ ณ ช่วงเวลาที่นักดาราศาสตร์ตรวจพบดาวหางดังกล่าว พบการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 137,000 ไมล์ต่อชั่วโมง (221,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือ 61 กิโลเมตรต่อวินาที) และความเร็วจะยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าใกล้ดวงอาทิตย์

ภาพ 02 : กล้องโทรทรรศน์ฮับเบิลบันทึกภาพดาวหาง 3I/ATLAS ได้เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2568 ขณะที่ดาวหางอยู่ห่างจากโลก 277 ล้านไมล์ จากภาพแสดงให้เห็นว่าดาวหางนี้มีฝุ่นรูปร่างคล้ายหยดน้ำตาที่ลอยออกมาจากนิวเคลียสแข็งที่เป็นน้ำแข็ง(ที่มา : NASA)

บทความ ดาวหาง 3I/ATLAS อาจเก่าแก่กว่าระบบสุริยะของเราถึง 3,000 ล้านปี ซึ่งเผยแพร่บนเว็บไซต์ narit.or.th ของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NARIT โดยแปลมาจากข่าว Astronomers say new interstellar visitor 3I/ATLAS is ‘very likely to be the oldest comet we have ever seen’ ของเว็บไซต์ space.com สำนักข่าวออนไลน์ในสหรัฐ ที่เน้นเสนอเนื้อหาวิชาการด้านอวกาศ เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2568 ระบุว่า 3I/ATLAS อาจเป็นดาวหางที่เก่าแก่ที่สุดดวงหนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์เคยพบ

วัตถุดังกล่าวเป็นที่สนใจของนักดาราศาสตร์ เพราะเป็นวัตถุในอวกาศดวงที่ 3 ที่เดินทางมาจากนอกระบบสุริยะ โดยอีก 2 ดวงก่อนหน้านี้คือ ดาวเคราะห์น้อย 1I/’Oumuamua และดาวหางโบรีซอฟ 2I/Borisov ที่ค้นพบในปี 2560 และ 2562 ตามลำดับอย่างไรก็ตาม งานวิจัยครั้งใหม่ได้แสดงให้เห็นว่าดาวหางดวงนี้ อาจมีอายุมากถึง 7,000 ล้านปี ซึ่งมากกว่าระบบสุริยะของเราถึง 3,000 ล้านปี และนับเป็นดาวหางที่มีอายุมากกว่าดาวหางดวงใดๆ ที่นักดาราศาสตร์เคยค้นพบมาก่อน บทความของ NARIT ระบุ 

– 3I/ATLAS ถูกโยงกับผู้มาเยือนจากต่างดาวได้อย่างไร? : ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์และผู้อำนวยการสถาบันที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด อาวี โลบ (Avi Loeb) ออกมาเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจและมีทุน สนับสนุนโครงการตรวจสอบว่า 3I/ATLASเป็นเพียงดาวหางธรรมดาๆ ที่มีน้ำแข็งเป็นโครงสร้าง หรือเป็นสิ่งอื่น เช่น ยานอวกาศที่อำพรางเทคโนโลยีอันซับซ้อนภายใต้รูปร่างก้อนหิน 

บทความ “Should We Be Happier if 3I/ATLAS is a Comet?” ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2568 ทางเว็บไซต์ medium.com  โลบ กล่าวว่า เนื่องจากไม่เคยมีการบันทึกความเสี่ยงจากเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาวในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา เราจึงอาจสงสัยว่าเราจะสามารถสันนิษฐานได้หรือไม่ว่าความเสี่ยงนั้นจะต้องต่ำในแต่ละปี ข้อโต้แย้งนี้จะหมดความน่าเชื่อถือหากการเยี่ยมชมนั้นถูกกระตุ้นด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีล่าสุดของเราที่ดึงดูดความสนใจจากมนุษย์ต่างดาว

โลบ เล่าว่า ตนได้รับข้อความมากมายที่ชี้ให้เห็นว่า การพิจารณา 3I / ATLAS ในฐานะเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาวที่อาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับสาธารณชน วิทยาศาสตร์น่าจะดึงดูดความสนใจของสาธารณชนได้เพราะได้รับการสนับสนุนจากภาษี แต่เมื่อการอภิปรายเกี่ยวกับ 3I / ATLAS กลายเป็นกระแสไวรัล เพื่อนร่วมงานหลายคนกลับเลือกที่จะไม่ใส่ใจความสนใจของสาธารณชน โดยโต้แย้งโดยอาศัยข้อมูลเบื้องต้นว่า 3I / ATLAS ต้องเป็นดาวหาง 

ความจริงก็คือ วิทยาศาสตร์ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งต้องมีการตีความที่หลากหลายเพื่อกระตุ้นให้มีการรวบรวมข้อมูล การยืนกรานว่า 3I / ATLAS ต้องเป็นดาวหางนั้นไม่ฉลาดนัก เพราะไม่มีหางของดาวหาง และวิถีโคจรของมันถูกปรับแต่งให้สอดคล้องกับระนาบการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ ณ ขณะนี้ แสงเรืองรองที่อยู่ข้างหน้า 3I / ATLAS สามารถคงอยู่ได้นานถึง เดือนโดยการกำจัดชั้นดินที่มีความหนาเพียงมิลลิเมตรบนพื้นผิวของวัตถุที่มีความยาว 20 กิโลเมตร โลบ กล่าว

ภาพ 03 : เพจ “Drama-addict” อธิบายถึง “โคมา (Coma)” หรือกลุ่มฝุ่นและก๊าซอันเป็นลักษณะที่ปรากฏในดาวหาง ซึ่งเมื่อดาวหางเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้น อัตราการคายแก๊สและฝุ่นของดาวหางจะเพิ่มขึ้น ทำให้ส่วนหางขยายใหญ่มากขึ้น

แต่อีกด้านหนึ่ง รายงานข่าว “Comet or alien spaceship? An astrophysicist explains what we know about interstellar traveler 3I/Atlas” เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2568 ทางเว็บไซต์ news.northeastern.edu ซึ่งเป็นสำนักข่าวของมหาวิทยาลัยมนอร์ทอีสเทิร์น อ้างความเห็นของ แจ็คเกอร์ลีน แม็คเคลียรี (Jacqueline McCleary) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทิร์น ที่อธิบายว่า โดยปกติแล้วดาวหางจะมืดมากจนนักดาราศาสตร์มองไม่เห็น 

จนกระทั่งเมื่อดาวหางเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้น รังสีจากดวงอาทิตย์จะทำให้สารประกอบระเหยที่สะท้อนแสงสูงละลายหายไป ซึ่งปรากฏอยู่ภายนอก ผลที่ตามมาคือ หางต้นแบบที่เรียกว่า โคมา(Coma)” ซึ่งค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น เป็นหางที่เราคุ้นเคยกันดีว่ามีลักษณะเป็นหางของดาวหางที่พุ่งผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน ทั้งนี้ ดาวพฤหัสบดีอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ 5 หน่วยดาราศาสตร์ หรือ 5 ระยะทางระหว่างโลกและดวงอาทิตย์ และดาวหางส่วนใหญ่ต้องเข้าใกล้มากกว่านั้นเพื่อให้รังสีจากดวงอาทิตย์มีความเข้มข้นเพียงพอที่จะก่อให้เกิดหางที่ละลายและปล่อยก๊าซออกมา

แต่การที่ดาวหาง 3I / ATLAS ก่อตัวเป็นโคมาเมื่ออยู่นอกวงโคจรของดาวพฤหัสบดี ซึ่งอยู่ห่างออกไปมากกว่าปกติมาก การที่ 3I / Atlas เริ่มเปล่งแสงออกมาไกลจากดวงอาทิตย์มากขนาดนี้ ถือว่าผิดปกติมากพอจนทำให้เกิดทฤษฎีตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าต้องเป็นยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว อย่างไรก็ตาม การเฝ้าสังเกตในเวลาต่อมาเผยให้เห็นว่า 3I / ATLAS ไม่เพียงแต่มีหางคล้ายดาวหางเท่านั้น แต่ยังน่าจะอุดมไปด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย เพราะน้ำแข็งคาร์บอนไดออกไซด์ หรือที่เรียกว่าน้ำแข็งแห้ง (Dry Ice) นั้นละลายง่ายมาก

การวิเคราะห์นี้ยังอ้างข้อค้นพบจากกล้องโทรทรรศน์ เจมส์ เว็บบ์ ของ NASA ที่เผยให้เห็นว่า 3I / ATLAS ไม่เพียงแต่ประกอบด้วยคาร์บอนไดออกไซด์เท่านั้น แต่ยังมีอัตราส่วนคาร์บอนไดออกไซด์ต่อน้ำที่แข็งเป็นน้ำแข็ง (Water Ice) ที่เหนือกว่าโลกถึง 8:1 ซึ่งเป็นหนึ่งในอัตราส่วนที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา อัตราส่วนนี้ทำให้มองเห็นสภาพของระบบสุริยะอื่นๆ และการก่อตัวของระบบเหล่านั้นตั้งแต่แรกเริ่ม

เห็นได้ชัดว่าระบบดาวหาง 3I/Atlas เดิมอาจอุดมไปด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ หรืออาจมีกระบวนการแผ่รังสีแปลกๆ ที่ทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมากและต้มส่วนที่เหลือทั้งหมดจนหมดไป ในทางอ้อม การพยายามทำความเข้าใจองค์ประกอบของดาวหางดวงนี้และเปรียบเทียบกับองค์ประกอบของดาวหางระหว่างดวงดาวดวงอื่นๆ… สามารถบอกเราได้ว่าการก่อตัวของระบบสุริยะในระบบสุริยะอื่นๆ ในระดับรายละเอียดเป็นอย่างไร แม็คเคลียรี กล่าว 

รายงานข่าวนี้ยังระบุด้วยว่า นักวิทยาศาสตร์อาจได้เห็นดาวหางดวงนี้อย่างละเอียดมากขึ้นเมื่อมันโคจรผ่านวงโคจรของดาวพฤหัสบดีในเส้นทางขาออกหลังจากเดือน ต.ค. 2568 ซึ่งจะเผยให้เห็นธรรมชาติของมันมากขึ้น ทั้งนี้ดาวเทียมจูโนของNASA ที่โคจรรอบดาวพฤหัสบดีจะอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดที่จะมองเห็นดาวหางผู้มาเยือนระหว่างดวงดาวดวงนี้ โดยแม็คเคลียรี อธิบายว่า เราอาจสามารถมองเห็นดาวหางดวงนั้นได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมันจะโคจรมาใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมากจะระเหยออกไป ดังนั้นเราจะสามารถเห็นสิ่งที่เหลืออยู่

รายงานพิเศษ “Are internet rumours of a comet hurtling towards Earth true?” โดยสำนักข่าวอัลจาซีราของกาตาร์ เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2568 อ้างถึงบัญชีแพลตฟอร์ม X ชื่อ Lord Bebo ที่โพสต์ภาพของ มิชิโอะ คาคุ (Michio Kaku) นักฟิสิกส์ชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น ซึ่งบัญชี Lord Bebo อ้างว่า คาคุได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับ 3I / ATLAS ว่า วัตถุลึกลับนี้กำลังเดินทางไปปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ซึ่งอาจมีเจตนาเป็นปฏิปักษ์

โพสต์ดังกล่าวพร้อมด้วยภาพหน้าจอที่ตัดต่อแล้วจากการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ของคาคุ พร้อมคำบรรยายใต้ภาพว่า อาจเป็นยานสำรวจจากมนุษย์ต่างดาวที่ถูกส่งมายังโลก มียอดผู้เข้าชมมากกว่า 290,000 ครั้ง และความคิดเห็นอีกมากมายอย่างไรก็ตาม ทีมงานของอัลจาซีรา ไม่พบหลักฐานใดๆ ที่ชี้ว่าคาคุเคยพูดว่า  3I / ATLAS อาจเป็นยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว ส่วนภาพประกอบที่ใช้ก็นำมาจากบทสัมภาษณ์เก่าของสำนักข่าว Nation News ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2568 ซึ่งเป็นเวลาหลายเดือนก่อนที่ 3I/ATLAS จะถูกค้นพบ

– อีลอน มัสก์ เคยพูดถึง 3I / ATLAS บ้างหรือไม่? : (ณ วันที่ 8 ต.ค. 2568) จากการค้นหาด้วยถ้อยคำ “3I / ATLAS Elon Musk” แม้จะพบสื่อมวลชนหลายสำนักให้ความสนใจกับดาวหางลึกลับอย่าง 3I / ATLAS แต่กลับไม่มีสื่อกระแสหลักรายงานการพูดถึงดาวหางดวงนี้ของมัสก์ (รวมถึงไม่พบแถลงการณ์หรือโพสต์ในบัญชีแพลตฟอร์ม X ที่เจ้าตัวมักใช้สื่อสารกับสาธารณชนเป็นประจำ) แต่กลับมีการอ้างในหมู่ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์หลากหลายแพลตฟอร์ม ว่า อีลอน มัสก์ ได้ยืนยันว่า 3I / ATLAS เป็นยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว โดยสามารถพบถ้อยคำ Elon Musk: “It’s Confirmed, The 3I ATLAS is an Alien Space Craft!” แพร่หลายตั้งแต่เดือน ก.ย. 2568 เป็นต้นมา

โดยสรุปแล้ว ณ ขณะที่เขียนบทความนี้ (วันที่ 8 ต.ค. 2568) ยังไม่พบหลักฐานใดๆ ที่ชี้ว่า อีลอน มัสก์ ให้ความเห็นว่า 3I / ATLAS เป็นยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว และตามข้อมูลที่มีอยู่ยังคงเชื่อได้ว่าสิ่งนี้เป็นดาวหางที่เดินทางยาวไกลมาจนถึงระบบสุริยะของเรา เพียงแต่องค์ประกอบบางอย่างทำให้มีลักษณะแปลกกว่าดาวหางหรือดาวเคราะห์น้อยดวงอื่นๆ ที่มนุษย์เคยพบเห็น ส่วนจะมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงหรือไม่? คงต้องรอช่วงท้ายของปี 2568 ที่ดาวหางดวงนี้โคจรมาปรากฏให้เห็นอีกครั้ง!!!

-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-

อ้างอิง 

https://science.nasa.gov/solar-system/comets/3i-atlas/ (Comet 3I/ATLAS : NASA)

https://web.facebook.com/photo.php?fbid=1332375614933372&id=100044828388736&set=a.791821828988756&_rdc=1&_rdr# (โพสต์ Drama Addict วันที่ 7 ต.ค. 2568)

https://narit.or.th/th/AstronomyNews-20250729-3I/ATLAS (ดาวหาง 3I/ATLAS อาจเก่าแก่กว่าระบบสุริยะของเราถึง 3,000 ล้านปี : NARIT 11 ก.ค. 2568)

https://avi-loeb.medium.com/should-we-be-happier-if-3i-atlas-is-a-comet-91b3f8e74f98 (Should We Be Happier if 3I/ATLAS is a Comet? : Medium 24 ส.ค. 2568)

https://news.northeastern.edu/2025/09/08/3i-atlas-comet-interstellar-traveler/ (Comet or alien spaceship? An astrophysicist explains what we know about interstellar traveler 3I/Atlas : Northeastern Global News 8 ก.ย. 2568)

https://www.aljazeera.com/features/2025/10/3/are-internet-rumours-of-a-comet-hurtling-towards-earth-true (Are internet rumours of a comet hurtling towards Earth true? : Al Jazeera 3 ต.ค. 2568)