ไขข้อข้องใจ น้ำดื่มแถมจากปั๊มน้ำมัน อันตรายจริงหรือ?
รายการโคแฟคสนทนา รวมพลคนเช็กข่าว EP.2 วันที่20 พฤษภาคม 2568 ได้เผยแพร่เรื่องที่เกิดจากจากกระแสไวรัลทางโซเชียลมีเดียที่เตือนว่าน้ำดื่มแจกฟรีตามปั๊มน้ำมันอาจอันตราย สร้างความกังวลให้ประชาชนว่าขวดน้ำพลาสติกเหล่านี้มีรูพรุนจิ๋ว ทำให้สารเคมี แบคทีเรียหรือฝุ่นซึมเข้าไปได้เมื่อร้อน จนอาจก่อมะเร็ง ฮอร์โมนผิดปกติ มีลูกยาก หรือตับไตพัง รวมถึงคำเตือนว่าห้ามใช้ชงนม ล้างแผล หรือทำอาหาร จริงหรือไม่
รวมพลคนเช็กข่าว ได้เชิญ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ (อ.เจษฎ์) อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยาคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สุภิญญากลางณรงค์ ผู้ร่วมก่อตั้ง COFACT, และประชาชนผู้ร่วมตรวจสอบข่าวอย่าง พลอย และ น้าติ๊ก มาร่วมหาคำตอบ โดยมี สุชัย เจริญมุขยนันท ดำเนินรายการ

ขวดน้ำพลาสติกมีรูพรุนจิ๋ว ทำให้สารเคมีหรือแบคทีเรียเข้าได้จริงหรือ?
ตามที่คลิปไวรัลระบุว่า ขวดน้ำพลาสติกมีรูพรุนขนาดเล็ก ที่มองไม่เห็น อาจทำให้สารเคมี ฝุ่น หรือเชื้อโรคซึมเข้าไปได้เมื่อขวดถูกความร้อน อ.เจษฎ์ อธิบายว่าขวดน้ำดื่มส่วนใหญ่ผลิตจากพลาสติก PET (Polyethylene Terephthalate) ซึ่งมีความหนาแน่นสูง รูพรุนขนาดเล็ก (ประมาณ 2 นาโนเมตร) มีจริง แต่เล็กมากจนสารเคมี เช่น ไอระเหยน้ำมัน หรือเชื้อแบคทีเรีย (ขนาดใหญ่กว่ารูพรุนมาก) ซึมผ่านได้ยากและช้ามาก การที่น้ำในขวดจะปนเปื้อนจนเป็นอันตรายจึงแทบเป็นไปไม่ได้ในสภาวะปกติ
น้ำดื่มจากปั๊มน้ำมันทำให้เป็นมะเร็ง ฮอร์โมนเพี้ยน มีลูกยากหรือตับไตพังจริงหรือ?
คลิปไวรัลอ้างว่าน้ำดื่มที่ตากแดดในปั๊มน้ำมันอาจปล่อยสารเคมี เช่น BPA, Phthalates หรือสารก่อมะเร็ง อ.เจษฎ์ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ขวด PET มีโครงสร้างโมเลกุลที่เสถียร สารเคมีเหล่านี้ไม่หลุดออกมาง่ายๆ แม้ขวดจะถูกความร้อนที่ 40-60 องศาเซลเซียส (เช่น ในรถยนต์ที่จอดตากแดด) การวิจัยจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และงานศึกษาในต่างประเทศ (เช่น อังกฤษ ปี 2012) พบว่า ต้องใช้ความร้อนสูงถึง 60 องศาเซลเซียสนาน 11 เดือน จึงจะมีสารเคมีหลุดออกมาในปริมาณที่เกินมาตรฐาน ซึ่งในชีวิตประจำวันแทบเป็นไปไม่ได้
ส่วนคำเตือนเรื่องมะเร็ง ฮอร์โมนผิดปกติ หรือตับไตพัง อ.เจษฎ์ระบุว่า ข้อมูลเหล่านี้เกินจริงและสร้างความตื่นตระหนกเกินเหตุ หากขวดน้ำดื่มอันตรายจริงหน่วยงานสาธารณสุขคงสั่งห้ามจำหน่ายหรือแจกจ่ายไปนานแล้ว
ห้ามใช้ขวดน้ำดื่มชงนม ล้างแผล หรือทำอาหาร จริงหรือ?
อ.เจษฎ์แนะนำว่า น้ำดื่มจากขวดที่สะอาดและได้มาตรฐานสามารถใช้ดื่มได้อย่างปลอดภัย แต่ไม่เหมาะสำหรับการชงนม ล้างแผล หรือทำอาหารโดยตรง เนื่องจาก:
• ชงนม: ควรใช้น้ำต้มสุกเพื่อฆ่าเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนจากขั้นตอนการผลิตหรือการเก็บรักษา
• ล้างแผล: ควรใช้น้ำเกลือที่ผ่านการฆ่าเชื้อเฉพาะ ไม่ควรใช้น้ำดื่มทั่วไป เพราะอาจมีจุลินทรีย์เล็กน้อยที่ไม่เป็นอันตรายต่อการดื่ม แต่ไม่เหมาะกับแผล
• ทำอาหาร: หากต้องใช้ ควรต้มน้ำก่อนเพื่อความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม คำเตือนที่ห้ามใช้โดยเด็ดขาดนั้นเกินจริงและไม่จำเป็นต้องกังวลถึงขนาดนั้น
ขวดน้ำที่ตากแดดในปั๊มน้ำมันหรือทิ้งไว้ในรถยนต์อันตรายหรือไม่?
น้าติ๊ก ถามถึงกรณีขวดน้ำที่ตากแดดทั้งวันในปั๊มน้ำมันหรือทิ้งไว้ในรถยนต์ อ.เจษฎ์ย้ำว่า ขวดน้ำในปั๊มน้ำมันมักมีการหมุนเวียนเร็ว ไม่ได้เก็บไว้นานเป็นเดือน จึงไม่น่าจะมีการสะสมสารเคมีหรือไอระเหยน้ำมันในปริมาณที่เป็นอันตราย พื้นที่ปั๊มน้ำมันเป็นที่โล่ง อากาศถ่ายเทดี โอกาสที่ไอระเหยน้ำมันจะซึมเข้าไปในขวดจึงน้อยมาก

สำหรับน้ำขวดที่ทิ้งไว้ในรถยนต์ การทดลองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พบว่า การจอดรถตากแดด 1-7 วัน ไม่ทำให้สารเคมีจากขวด PET หลุดออกมาในระดับอันตราย อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการเก็บไว้นานเกิน 1 ปี เนื่องจากขวดอาจเริ่มเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน
สำหรับกลิ่นเหม็นที่บางคนพบในน้ำขวด อ.เจษฎ์ชี้ว่าส่วนใหญ่มาจากน้ำลายหรือเชื้อจุลินทรีย์จากปากของผู้ดื่มเองที่ปนเปื้อนในขวด ไม่ใช่เชื้อโรคจากภายนอกซึมเข้าไป ส่วนค่า pH ของน้ำที่อาจเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ไม่ได้ส่งผลร้ายต่อร่างกาย เนื่องจากน้ำดื่มมีค่าpH ใกล้เคียง 7 (เป็นกลาง) และร่างกายสามารถปรับสมดุลได้
มีหน่วยงานใดตรวจสอบปัญหานี้อย่างจริงจังหรือไม่?
น้องพลอย สอบถามถึงหน่วยงานที่ดูแลและวิธีแจ้งเตือนประชาชน อ.เจษฎ์ระบุว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่:
• สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)และ กระทรวงอุตสาหกรรม: ดูแลมาตรฐานการผลิตขวดน้ำ (มอก.)
• สำนักงานอาหารและยา (อย.) และ กระทรวงสาธารณสุข: ตรวจสอบความปลอดภัยของน้ำดื่มและสารปนเปื้อน
• กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์: วิจัยและตรวจสอบสารเคมีในขวดน้ำดื่ม
• สมาคมพลาสติก: ให้ข้อมูลเชิงวิชาการเกี่ยวกับพลาสติก
หากประชาชนสงสัยหรือพบปัญหา สามารถแจ้ง อย. หรือ สคบ. เพื่อตรวจสอบได้ นอกจากนี้ องค์กรตรวจสอบข่าว เช่น COFACT และศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมช่วยตรวจสอบและให้ข้อมูลที่ถูกต้อง
ข้อแนะนำสำหรับประชาชนในการดื่มน้ำขวด
อ.เจษฎ์แนะนำวิธีปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยและลดความกังวล ดังนี้:
• เลือกซื้อน้ำที่มีคุณภาพ: ตรวจสอบฉลาก วันหมดอายุ และสภาพขวดว่าสะอาด ไม่ชำรุด
• ดื่มให้หมดเร็ว: หลีกเลี่ยงเก็บน้ำขวดไว้นาน โดยเฉพาะหลังเปิดฝา เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากน้ำลายหรือจุลินทรีย์
• ไม่ใช้ขวดซ้ำบ่อย: ขวด PET ออกแบบให้ใช้ครั้งเดียว หากใช้ซ้ำ ต้องล้างให้สะอาดและไม่เก็บนานเกิน 1 ปี
• หลีกเลี่ยงความร้อนนานๆ: ไม่ควรทิ้งขวดน้ำในรถที่จอดตากแดดเป็นเวลานานเกิน 1 เดือน
• แยกเก็บขวดน้ำ: ปั๊มน้ำมันควรเก็บขวดน้ำในที่ร่มห่างจากถังน้ำมัน เพื่อลดความกังวลของผู้บริโภค
• ทิ้งขยะให้ถูกวิธี: แยกขวดพลาสติกเพื่อรีไซเคิล
ข้อสรุป: น้ำดื่มจากปั๊มน้ำมันปลอดภัยหรือไม่?
อ.เจษฎ์สรุปว่า น้ำดื่มแจกฟรีจากปั๊มน้ำมันที่ได้มาตรฐานและหมุนเวียนเร็ว ปลอดภัยสำหรับการบริโภค คำเตือนในคลิปไวรัลส่วนใหญ่เป็นการบิดเบือนและเกินจริง โดยเฉพาะเรื่องมะเร็ง ฮอร์โมนผิดปกติ หรือตับไตพัง อย่างไรก็ตาม ควรปฏิบัติตามข้อแนะนำเพื่อความมั่นใจ เช่น เก็บขวดในที่ร่ม ดื่มให้หมดเร็ว และไม่ใช้ขวดซ้ำนานเกินไป
สุภิญญา กลางณรงค์ เน้นย้ำว่า การตรวจสอบข้อมูลก่อนแชร์เป็นสิ่งสำคัญ รายการ รวมพลคนเช็กข่าว จะเป็นพื้นที่ให้ประชาชนร่วมตรวจสอบข่าวลือและข้อเท็จจริงต่อไป โดยสามารถติดตามได้ทุกวันอังคารผ่านแพลตฟอร์ม COFACT.ORG หรือ LINE : @COFACT
รับขมเพิ่มเติม คลิก

