วิธีรับมือกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ และเบอร์โทรศัพท์ชวนเชื่อ COFACT Special Report #17

บทความ

English Summary:
Thai mobile phone users have been experiencing overseas robocalls and scammers recently. These calls often ask them to transfer money to the shipping company or lure them to purchase a service. Although the robocalls and telemarketing is not new in Thailand, some people still don’t know how to handle these calls. Some of them mistakenly transfer money to the scammers. In this article, we provide tips to avoid the scammers and tools we can use to block those numbers.

ช่วงนี้เรามักจะเห็นข่าวแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ หรือเบอร์โทรศัพท์แปลกๆ ที่โทรมาหาเราเพื่อเสนอบริการต่างๆ หรือหลอกว่ามีพัสดุส่งมาจากต่างประเทศ ให้เราโอนเงินเพื่อรับพัสดุดังกล่าว หลายคนตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ แต่หลายครั้งพฤติกรรมของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ก็สร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือ

วิธีสังเกตหมายเลขแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ที่ง่ายที่สุดในปัจจุบัน ก็คือการสังเกตหมายเลขโทรศัพท์ที่มาจากต่างประเทศ โดยปกติแล้วหมายเลขโทรศัพท์ในไทย จะใช้รหัสประเทศขึ้นต้นด้วย 66 หรือ +66 หากเป็นต่างประเทศจะขึ้นต้นด้วยตัวเลขอื่น ดังนั้นหากขึ้นด้วยตัวเลขอื่น โดยเฉพาะเป็นหมายเลขที่เราไม่คุ้น เราควรตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนว่าอาจเป็นมิจฉาชีพ

ปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่น และฟังค์ชั่นต่างๆ บนโทรศัพท์มือถือที่เราสามารถบล็อกเบอร์โทรศัพท์เหล่านี้ได้

  1. บล็อกเบอร์ด้วยฟังค์ชั่นที่มาพร้อมกับโทรศัพท์มือถือ


สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการไอโอเอส (ไอโฟน) และแอนดรอยด์จะมาพร้อมกับฟังค์ชั่นบล็อกหมายเลขที่ผู้ใช้งานไม่ต้องการรับสาย หากเราต้องการบล็อกหมายเลขดังกล่าว ให้ไปที่แอพพลิเคชั่นโทรศัพท์ (ไอคอนรูปหูโทรศัพท์สีเขียว) และปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้


ระบบปฏิบัติการ iOS เมื่อไปที่แอพพลิเคชั่นโทรศัพท์แล้ว กดเลือกเบอร์โทรที่ต้องการจะบล็อกที่บริเวณรูปตัวไอสีฟ้า จากนั้นเลือก Block this Caller และยืนยันอีกครั้งด้วยการกด Block Contact

ผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS สามารถตั้งค่าให้โทรศัพท์ปฏิเสธการรับสายเบอร์โทรที่เครือข่ายมือถือไม่รู้จักได้ โดยเข้าไปยังแอพการตั้งค่า (Setting) เลือกเมนู Phone จากนั้นเปลี่ยน Silence Unknown Caller เป็น On


สำหรับระบบปฏิบัติการ Android ให้ไปที่แอพโทรศัพท์ จากนั้นกดเบอร์โทรที่ต้องการบล็อก และเลือกเมนู Block/Report Spam ทั้งนี้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android จะมีหน้าตาของแอพโทรศัพท์แตกต่างกัน เมนูอาจจะแตกต่างกัน แต่ขั้นตอนการเลือกบล็อกเบอร์โทรศัพท์จะคล้ายๆ กัน อาจจะเปลี่ยนตรงที่คำศัพท์ที่ใช้

  1. ใช้แอพบล็อกเบอร์โทร

นอกจากฟังค์ชั่นพื้นฐานที่มาพร้อมกับโทรศัพท์แล้ว ปัจจุบันเรามีตัวเลือกแอพพลิเคชั่นบล็อกเบอร์โทรกวนใจหลายแอพด้วยกัน บางแอพมาพร้อมฟังค์ชั่นพิเศษที่ช่วยตรวจสอบและแจ้งเตือนหมายเลขมิจฉาชีพก่อนเรารับสาย เว็บไซต์ PC Magazine แนะนำแอพพลิเคชั่น 3 แอพที่น่าสนใจ ได้แก่:

Hiya


แอพ Hiya: Spam Phone Call Blocker ใช้ฐานข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ที่มิจฉาชีพใช้ทั่วโลก รวมทั้งหมายเลขที่มักใช้เป็นสื่อโฆษณาต่างๆ นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถค้นหาหมายเลขโทรศัพท์ที่อาจเป็นของมิจฉาชีพ ด้วยการพิมพ์หมายเลขลงไปในตัวแอพ ฟังค์ชั่นการใช้งานทั่วไปบนแอพใช้งานได้ฟรี แต่ถ้าต้องการฟังค์ชั่นเสริม เช่นบริการแจ้งเตือนหมายเลขมิจฉาชีพก่อนรับสาย จะต้องสมัครเวอร์ชั่นพรีเมียม ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 100 บาทต่อเดือน

Robokiller


แอพนี้นอกจากจะมีฟังค์ชั่นบล็อกหมายเลขโทรศัพท์ของมิจฉาชีพเช่นเดียวกับ Hiya แล้ว ตัวแอพยังมาพร้อมกับฟังค์ชั่นตอบสายมิจฉาชีพอัตโนมัติ ในแอพจะมีรูปแบบเสียงตอบรับที่ทำให้มิจฉาชีพรู้สึกรำคาญ ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มเสียงตอบรับอัตโนมัติของตัวเองได้ แอพนี้มีค่าบริการรายเดือนทั้ง iOS และ Android สามารถทดลองใช้งานฟรี 1 สัปดาห์

Truecaller


แอพนี้นอกจากจะบล็อกหมายเลขของมิจฉาชีพ และตั้งค่าการบล็อกหมายเลขด้วยตนเองได้แล้ว ระบบยังสามารถบล็อกข้อความสแปมต่างๆ ได้ด้วย ปัจจุบันแอพนี้มีฐานข้อมูลเลขหมายของมิจฉาชีพราว 5 หมื่นเลขหมาย ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มหมายเลขเหล่านี้เข้าไปในระบบ ใช้งานฟรี หรือถ้าอยากตัดโฆษณาในแอพ และใช้งานครบทุกฟังค์ชั่น สามารถจ่ายค่าบริการรายเดือนได้ เริ่มต้นที่เดือนละประมาณ 130 บาท

Whoscall


แอพ Whoscall เป็นแอป สัญชาติไต้หวันโดยบริษัท Gogolook โดย Whoscall นั้นมีฐานข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ทั่วโลกกว่า 700 ล้านเลขหมาย ในเดือนมีนาคม 2021 มีรายงานระบุว่า มีผู้ใช้แอป Whoscall มากถึง 80 ล้านยูสเซอร์ทั่วโลก และมีเบอร์โทรศัพท์ที่อยู่ในฐานข้อมูลถึง 1.6 พันล้านเบอร์ ซึ่งจากฐานข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ขนาดใหญ่ของ Whoscall นี้เองทำให้ระบบสามารถตรวจสอบหมายเลขโทรเข้า และแจ้งให้ผู้ใช้ทราบก่อนที่จะรับสายว่าเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์ของใคร

ประเทศที่ใช้บริการ ‘Whoscall’ จำนวนมาก อาทิ ไต้หวัน,เกาหลีใต้,ฮ่องกง,ญี่ปุ่น,มาเลเซีย ,บราซิล และ ไทย ในการตรวจสอบเบอร์แปลกที่โทรเข้ามา ถ้าเบอร์นั่นเคยถูกร้องเรียนว่าเป็นเบอร์มิจฉาชีพ เวลาโทรมาหาเราก็จะมีการขึ้นเตือน และผู้ใช้สามารถทำการรายงานในระบบ และ บล็อกเบอร์ หรือไม่รับได้

  1. สัญญาณบ่งชี้มิจฉาชีพ

ถึงแม้แอพพลิเคชั่นเหล่านี้จะช่วยคัดกรอง และช่วยบล็อกเบอร์ของบรรดามิจฉาชีพ แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายครั้งเรามักจะเผลอรับสายเบอร์โทรเหล่านี้บ่อยครั้ง เพราะเราก็ไม่รู้เสมอไปว่าบุคคลที่โทรศัพท์มาหาเราเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ซึ่งมิจฉาชีพกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ส่วนใหญ่มักจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ฟังแล้วดูดีเกินจริง หรือหลอกให้เราโอนเงิน หรือขอข้อมูลส่วนตัว เช่น บัตรประชาชน เลขบัตรเครดิต เลขบัญชีธนาคาร ดังนั้นหากเราเผลอรับสายมิจฉาชีพเหล่านี้ วิธีรับมือที่ดีที่สุด ก็คือวางสาย ไม่พูดคุยต่อ และทำการบล็อกหมายเลขเหล่านั้นเพื่อไม่ให้พวกเขาติดต่อกลับมาหาเรา ไม่ควรต่อล้อต่อเถียง หรือสนทนาต่อ


ที่มา: https://sea.pcmag.com/mobile-phones/48050/how-to-block-robocalls-and-spam-calls
https://www.springnews.co.th/blogs/news/815065


เกี่ยวกับผู้เขียน

ธนภณ เรามานะชัย (ไมค์) Fact-checker และ คอลัมนิสต์ประจำ Cofact Thailand

ปัจจุบันทำหน้าที่วิทยากรด้านการตรวจสอบข้อมูลข่าวและเครื่องมือดิจิทัลด้านข่าวให้กับ Google News Initiative ก่อนหน้านี้เขาเป็นผู้ประกาศข่าวเทคโนโลยีให้กับสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี (Voice TV) และอดีตกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย (FCCT) https://www.damikemedia.com