รู้ได้ไง “AI” หรือ “ภาพจริง”? เจาะลึกการตรวจสอบข่าวลวงในยุคความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา
ในยุคที่ข้อมูลท่วมท้นบนโซเชียลมีเดีย การแยกแยะระหว่างภาพจริงและภาพที่สร้างจากปัญญาประดิษฐ์(AI) กลายเป็นความท้าทาย โดยเฉพาะในสถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชาที่กำลังร้อนระอุ รายการ “โคแฟคสนทนา รวมพลคนเช็กข่าวEP.4” เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 ได้พูดคุยถึงวิธีการตรวจสอบข่าวลวงและข้อมูลบิดเบือน พร้อมชวนทุกคนรู้เท่าทันสื่อ ด้วยการสนทนานำโดย สุชัย เจริญมุขยนันท ผู้ดำเนินรายการ, สุภิญญา กลางณรงค์ ผู้ร่วมก่อตั้ง COFACT, กุลธิดา สามะพุทธิ Fact-checker จากโคแฟค และ พี่ช้าง ธรรมชาติ ทานตะวันสดใส ตัวแทนคนเช็กข่าวที่นำประเด็นมาเสนอ
สุภิญญา กลางณรงค์ เริ่มต้นด้วยการชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์ความร้อนแรงในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึงปัญหาข้อมูลบิดเบือนที่อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดและความเกลียดชัง เธอกล่าวว่า“ข้อมูลที่บิดเบือนหรือตั้งใจปั่น เพื่อประโยชน์ทางการเมืองสามารถจุดชนวนความโกรธเกลียดได้ง่าย”
โดยเฉพาะในยุคที่ AI สามารถสร้างภาพและคลิปที่เหมือนจริงได้อย่างน่ากลัว เธอเน้นย้ำว่า ทุกคนต้องรู้เท่าทันข้อมูล โดยตั้งคำถามว่าเป็น “AI หรือ IO (Information Operation)” ซึ่งหมายถึงปฏิบัติการข้อมูลที่อาจมีแรงจูงใจทางการเมือง เศรษฐกิจ หรือสังคม สุภิญญายังชวนผู้ชมส่งภาพหรือคลิปที่น่าสงสัยมาให้ทีมโคแฟคตรวจสอบ เพื่อช่วยกันแยกแยะความจริง

พี่ช้าง นำเสนอกรณีตัวอย่างคลิปที่แชร์กันในโซเชียลมีเดีย ซึ่งแสดงภาพบุคคลที่หน้าคล้ายนักการเมืองไทยกำลังยกมือไหว้ผู้นำกัมพูชา พร้อมซาวด์ตลกขบขันเขาตั้งคำถามว่า “คลิปนี้จริงหรือไม่? หรือเป็นเพียงการแชร์เพื่อความขบขัน แต่ทำให้คนเข้าใจผิด?” พี่ช้างยอมรับว่า ความสมจริงของภาพและคลิปที่สร้างจาก AI ทำให้ผู้บริโภคสื่ออย่างเขาแยกแยะได้ยากและจำเป็นต้องพึ่งพาการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ
กุลธิดา สามะพุทธิ อธิบายวิธีการตรวจสอบภาพและคลิปอย่างละเอียด กรณีแรกคือภาพนิ่งที่ถูกแชร์ในโซเชียลมีเดีย ซึ่งหน้าตาคล้ายนักการเมืองไทยและผู้นำกัมพูชา เธอเล่าว่า ทีมโคแฟคใช้วิธี Reverse Image Search เพื่อค้นหาที่มาของภาพใน Google แต่ไม่พบแหล่งที่มา จึงค้นหาข่าวเพิ่มเติมและพบว่าไม่มีรายงานการพบปะระหว่างบุคคลทั้งสองในช่วงเวลาดังกล่าวต่อมาเมื่อตรวจสอบใน TikTok พบว่าคลิปนี้ถูกโพสต์พร้อมแฮชแท็ก #AI ซึ่งบ่งชี้ว่าเป็นภาพที่สร้างจากปัญญาประดิษฐ์ และถูกแชร์ต่อใน Facebook โดยไม่ระบุว่าเป็น AI ทำให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างกว้างขวาง กุลธิดายังชี้จุดสังเกตภาพ AI เช่น ความผิดปกติของเส้นผม ลายธงกัมพูชา และเข็มกลัดที่ขาดรายละเอียด ซึ่งสามารถช่วยระบุว่าเป็นภาพปลอม
กรณีที่สองที่กุลธิดานำเสนอคือภาพป้ายหน้าร้านที่ระบุว่า “ไม่รับคนงานเขมร” ซึ่งถูกแชร์ใน X และแพลตฟอร์มอื่นๆ เธอวิเคราะห์ว่า ป้ายดูตึงเกินไปและขาดรอยยับตามธรรมชาติ รวมถึงมือของบุคคลในภาพที่เบลอ และแสงเงาที่ไม่สอดคล้องกัน
บ่งชี้ว่าเป็นภาพที่สร้างจาก AI หรืออาจถูกแต่งด้วยPhotoshop กุลธิดาเตือนว่า แม้ภาพจะเป็นของจริง ก็อาจถูกนำมาใช้ในบริบทที่ผิด (False Context) เช่นภาพจากอดีตที่ถูกนำมาเชื่อมโยงกับสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อสร้างความเข้าใจผิด
กรณีต่อไปเป็นคลิปที่แชร์ใน Facebook, LINE Open Chat และ TikTok ซึ่งแสดงภาพทหารกัมพูชานอนบนผ้า พร้อมคำบรรยายที่ล้อเลียนว่าเป็นการ “ซ้อมห่อศพ” กุลธิดาค้นพบว่า คลิปนี้มาจากบัญชี TikTok ของหน่วยงานสาธารณสุขกัมพูชา ซึ่งระบุว่าเป็นการฝึกอบรมการปฐมพยาบาลและเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ไม่ใช่การฝึกห่อศพอย่างที่เข้าใจผิด น่าเสียดายที่สื่อหลักบางช่องนำคลิปนี้ไปรายงานโดยไม่ตรวจสอบให้ชัดเจน สร้างความเข้าใจผิดเพิ่มขึ้น
กรณีสุดท้ายที่กุลธิดานำเสนอคือคลิปจาก YouTube ที่ถูกแชร์ข้ามแพลตฟอร์ม โดยยูทูบเบอร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมากอ้างว่า สหรัฐฯ คว่ำบาตรศาลโลก(International Court of Justice – ICJ) เนื่องจากเห็นใจประเทศไทยที่ถูก “รังแก” โดยกัมพูชาในกรณีพิพาทชายแดน

กุลธิดาตรวจสอบพบว่า ข้อมูลนี้บิดเบือนความจริงเพราะสหรัฐฯ คว่ำบาตรศาลอาญาระหว่างประเทศ(International Criminal Court – ICC) ไม่ใช่ศาลโลกที่เกี่ยวข้องกับคดีพิพาทเขตแดน
เธอตั้งข้อสังเกตว่า ความผิดพลาดนี้อาจเกิดจากความเข้าใจผิดของยูทูบเบอร์ หรือจงใจบิดเบือนเพื่อเรียกยอดวิวและกระแส โดยเฉพาะในช่วงที่ความขัดแย้งไทย-กัมพูชากำลังเป็นที่สนใจ กุลธิดาย้ำว่า ข้อมูลเช่นนี้สามารถตรวจสอบได้จากสื่อที่น่าเชื่อถือ ซึ่งควรรายงานข่าวการคว่ำบาตรศาลโลกอย่างกว้างขวางหากเป็นเรื่องจริง
สุชัย เจริญมุขยนันท เสริมว่า สื่อกระแสหลักควรเป็นที่พึ่งของประชาชน และไม่ควรนำข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบไปเผยแพร่ เขายังชี้ว่า ผู้บริโภคสื่อควรระวังการแชร์ข้อมูลด้วยอคติ (Confirmation Bias) ซึ่งอาจทำให้แชร์ข้อมูลลวงโดยไม่ตั้งใจ
บทสรุป รายการนี้เรียกร้องให้ทุกคนเป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง โดยตั้งคำถามว่า “เป็น AI หรือIO?” ก่อนแชร์ข้อมูล โดยเฉพาะในเรื่องที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง สุภิญญาแนะนำให้ใช้ความช่างสังเกตและวิจารณญาณ รวมถึงส่งข้อมูลที่น่าสงสัยให้ทีมโคแฟคช่วยตรวจสอบ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของข่าวลวง
สุชัยทิ้งท้ายว่า บางภาพอาจจับแพะชนแกะ “อย่าเพิ่งเชื่อ อย่าเพิ่งแชร์ จนกว่าจะเช็กให้ชัวร์” เพื่อสร้างสังคมที่รู้เท่าทันสื่อและลดการจับแพะชนแกะที่อาจสร้างความแตกแยก