เช็ครายชื่อสื่อของรัฐบาลรัสเซีย และการตรวจสอบแยกแยะที่มาของข่าวสงครามยูเครน COFACT Special Report #21
ข่าวการร่วมมือนำเสนอข่าวสารจากสื่อของรัสเซีย นำโดยสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ทำให้ประชาชนไทยให้ความสนใจถึงการทำหน้าที่สื่อมวลชน และการนำเสนอข่าวสารภายใต้สภาวะสงครามของรัสเซีย และสื่อของชาติตะวันตก เนื่องจากสื่อของรัสเซียส่วนมากจะนำเสนอข้อมูลข่าวสารไปในทางสนับสนุนรัฐบาลของตน ขณะที่สื่อฝั่งตะวันตกจะนำเสนอภาพความสูญเสีย และความเสียหายจากการบุกรุกของกองทัพรัสเซียในยูเครนมากกว่า
English Summary
Russian state media have been well-known in the Western countries as the primary sources for war propaganda. However, not many Thai people know which Russian media outlet is a state-owned or operate independently. This article provides a basic guideline on who are the Russian state-owned media, how they operate, and how to be cautious before believing in information from these outlets.
หนึ่งในมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกหลายประเทศก็คือการแบนการนำเสนอข้อมูลจากสื่อของรัฐบาลรัสเซีย หรือสื่อที่มีความสัมพันธ์กับรัฐบาลรัสเซีย เช่นอังกฤษมีการระบุให้สื่อของรัฐบาลรัสเซียเป็นสื่อประเภทโฆษณาชวนเชื่อ ขณะที่ผู้ให้บริการสื่อโซเชียล เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และยูทูบมีฟังค์ชั่นแจ้งคำเตือนผู้ใช้งานในเนื้อหาที่นำเสนอโดยสื่อของรัฐบาลรัสเซีย
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ปัจจุบันรัสเซียเป็นประเทศที่สื่อหลัก เช่น โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ออนไลน์ที่อยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาล หรือบุคคลที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก โดยโทรทัศน์ยังคงเป็นสื่อที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แทบทุกครัวเรือนจะรับชมข่าวผ่านโทรทัศน์ และรายการข่าวส่วนใหญ่ผลิตโดยสื่อที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล
ทีวี สื่อกระแสหลัก คนรัสเซียชมมากที่สุด เผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อมากที่สุด
ถึงแม้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตจะเข้าถึงประชาชนชาวรัสเซียจำนวนมาก แต่การชมข่าวสารผ่านโทรทัศน์ หรือติดตามข่าวผ่านทางเว็บไซต์ของสถานีโทรทัศน์ก็ยังคงเป็นวิธีการรับข่าวสารยอดนิยม โดยสถานีโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ตามรายงานของสำนักข่าวบีบีซี คือสถานีที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ เช่น Channel One และ Rossiya 1 ทั้งสองสถานีล้วนมีแนวทางการนำเสนอข่าวสนับสนุนนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล ขณะที่ NTV เป็นสถานีโทรทัศน์เอกชนที่บริหารโดยกลุ่มบริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ Gazprom ซึ่งมีรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ปัจจุบันสถานีโทรทัศน์เอกชนที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับ หรือบริหารโดยรัฐบาลรัสเซียได้ปิดตัวลงไปแล้วทั้งหมด เนื่องจากกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่จำกัดสิทธิ์ไม่ให้พวกเขานำเสนอข้อมูลที่ขัดแย้งกับรัฐบาล โดยเฉพาะการนำเสนอข้อมูลสงครามยูเครน จะต้องเป็นไปในแนวทางที่รัฐบาลกำหนดเท่านั้น ดังนั้นสถานีโทรทัศน์ที่เหลือ ซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ภายใต้กำกับของรัฐ หรืออาจจะเป็นสถานีของเอกชน แต่มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นหน่วยงานของรัฐก็มักจะนำเสนอข่าวไปในทางเดียวกัน คือสนับสนุนการทำงานและนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล
RT ช่องข่าวภาษาอังกฤษ ตัวแทนรัฐบาลรัสเซียนำเสนอโฆษณาชวนเชื่อไปทั่วโลก
สถานีโทรทัศน์ของรัสเซียที่หลายคนทั่วโลกมักจะคุ้นเคยคือ RT สถานีข่าวภาคภาษาอังกฤษที่สามารถรับชมผ่านระบบจานดาวเทียมและเคเบิลทั่วโลก RT ถือเป็นสำนักข่าวชั้นนำของรัสเซียที่มีผู้สื่อข่าวประจำตามประเทศต่างๆ คล้ายกับ CNN และ BBC แต่สิ่งที่ต่างจากสองสถานีนี้คือ RT เป็นสำนักข่าวที่บริหารภายใต้งบประมาณของรัฐบาลรัสเซีย ไม่ใช่รูปแบบทีวีสาธารณะ (เช่น BBC) หรือโทรทัศน์เอกชน (เช่น CNN) ดังนั้นรูปแบบการนำเสนอข้อมูลข่าวสารก็จะเน้นไปทางสนับสนุนการทำงานและนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลรัสเซีย และขัดแย้งกับรายงานข่าวในสื่อฝั่งตะวันตก หรือสื่อชั้นนำระดับโลกที่อยู่ในประเทศเสรีประชาธิปไตย
นอกจาก RT จะเป็นช่องโทรทัศน์ที่สามารถรับชมได้ทั่วโลกแล้ว RT ยังมีบริการเนื้อหาให้กับสำนักข่าวต่างๆ ทั่วโลกสามารถซื้อเนื้อหานำไปใช้ในการนำเสนอข่าวให้กับประชาชนในประเทศของตัวเอง ถึงกระนั้นหลายประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มสหภาพยุโรป และสหรัฐฯ ต่างแบนการนำเสนอข้อมูลของ RT และไม่อนุญาตให้สำนักข่าวต่างๆ นำเนื้อหาของ RT ไปนำเสนอ โดยเฉพาะเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสงครามยูเครน เพราะอาจมีเนื้อหาเชิงโฆษณาชวนเชื่อ และข่าวลวงที่ไม่ตรงกับสถานการณ์จริงในพื้นที่
สื่อออนไลน์ของรัสเซีย ควรอ่านด้วยความระมัดระวัง
ปัจจุบันชาวรัสเซียจำนวนมากนิยมติดตามข่าวสารผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ประชาชนเข้าถึงสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์พกพาแทบทุกพื้นที่ ถึงกระนั้นด้วยกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ทำให้ประชาชนในรัสเซียไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารจากภายนอกประเทศได้ รัฐบาลรัสเซียปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศชาติตะวันตก เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ และเยอรมนี ทำให้ประชาชนที่ติดตามข่าวสงครามในยูเครนจะได้รับข้อมูลข่าวสารจากฝั่งของรัฐบาลเป็นหลัก
อย่างไรก็ตามประชาชนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านอินเทอร์เน็ตอาจจะใช้เครื่องมือต่างๆ ในการเข้าถึงเว็บไซต์ต่างประเทศได้ แต่นั่นก็มีจำนวนน้อย และไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ในประเทศได้
เว็บไซต์ข่าวยอดนิยมในรัสเซียส่วนใหญ่จะคล้ายกับสถานีโทรทัศน์ เป็นสำนักข่าวที่อยู่ภายใต้กำกับของรัฐ หรือเป็นบริษัทเอกชนที่มีบริษัทของรัฐเป็นผู้ถือหุ้นหลัก ดังนั้นเนื้อหาของเว็บไซต์เหล่านี้ก็จะมีทิศทางไปในด้านสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล แต่ก็ยังมีเว็บไซต์ยอดนิยมบางเว็บที่ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียง แต่เป็นแค่ตัวกลางในการเผยข้อมูลในรัสเซียซึ่งบางครั้งเว็บไซต์ในต่างประเทศอาจจะมีไม่เพียงพอ
ตัวอย่างเว็บไซต์ยอดนิยมในรัสเซีย:
- TASS – เว็บไซต์ข่าวภาษาอังกฤษ อยู่ภายใต้กำกับของรัฐ
- Interfax – เว็บไซต์ข่าวภาษาอังกฤษ ดำเนินการโดยเอกชน
- Lenta.ru – เว็บข่าวออนไลน์ยอดนิยม เนื้อหาเป็นภาษารัสเซีย
- The Moscow Times – เว็บไซต์ข่าวภาษาอังกฤษ ใช้ชื่อเดียวกันกับหนังสือพิมพ์ที่เคยได้รับความนิยม
- Sputnik – เว็บไซต์ที่ให้บริการเนื้อหาหลากหลายประเภท มีให้เลือกหลากหลายภาษา บริหารงานโดยรัฐ
- Yandex.ru – เว็บเซิร์จเอนจิ้นยอดนิยมในรัสเซีย มีฟังค์ชั่นทั้งภาษารัสเซีย และภาษาอังกฤษ
- VKontakte – สื่อโซเชียลยอดนิยมของคนรัสเซีย
หากคุณใช้งานเว็บไซต์เหล่านี้ หรือพบว่ามีเนื้อหามาจากเว็บไซต์เหล่านี้ อาจจะต้องใช้ความระมัดระวังในการตรวจสอบเนื้อหา วิธีการที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อของข่าวลวง หรือโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลรัสเซีย ก็คือการตรวจสอบเนื้อหาเดียวกันในหลายๆ สื่อ เช่น ตรวจสอบเนื้อหาเดียวกันในสื่อต่างประเทศ สำนักข่าวอื่นๆ อย่างน้อย 2-3 แห่ง เพื่อเปรียบเทียบแนวทางการนำเสนอ และตัดสินในข้อมูลที่มีการรายงานตรงกัน
ที่มา:
https://www.bbc.com/news/world-europe-17840134
เกี่ยวกับผู้เขียน
ธนภณ เรามานะชัย (ไมค์) Fact-checker และ คอลัมนิสต์ประจำ Cofact Thailand
ปัจจุบันทำหน้าที่วิทยากรด้านการตรวจสอบข้อมูลข่าวและเครื่องมือดิจิทัลด้านข่าวให้กับ Google News Initiative ก่อนหน้านี้เขาเป็นผู้ประกาศข่าวเทคโนโลยีให้กับสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี (Voice TV) และอดีตกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย (FCCT) https://www.damikemedia.com